อัตถะ แปลว่า ประโยชน์ ผลที่มุ่งหมาย จุดหมาย พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมสั่งสอนพุทธบริษัททั้งหลาย ก็เพื่อให้พุทธบริษัทนั้นได้รับประโยชน์ 3 ประการ คือ
1. ทิฏฐธัมมิกัตถะ
ทิฏฐธัมมิกัตถะ ประโยชน์ในภพนี้ ประโยชน์ในโลกนี้ หรือประโยชน์ในปัจจุบัน คือประโยชน์ที่จะได้รับในปัจจุบันชาตินี้ มุ่งถึงประโยชน์ในการแสวงหาทรัพย์และการมีฐานะที่มั่นคง จะเกิดมีขึ้นได้ด้วยการมีคุณลักษณะ 4 ประการ คือ
1) อุฏฐานสัมปทา ประกอบพร้อมด้วยความขยันในการประกอบกิจแสวงหาทรัพย์สิน
2) อารักขสัมปทา การรักษาทรัพย์ที่หามาได้ไม่ให้สูญไปโดยไร้ประโยชน์
3) กัลยาณมิตตตา การคบคนดีเป็นมิตร
4) สมชีวิตา การเลี้ยงชีพพอสมควรแก่ฐานะ
2. สัมปรายิกัตถะ
สัมปรายิกัตถะ ประโยชน์ในภพหน้า คือประโยชน์ที่จะได้รับหลังจากตายไปแล้วไปเกิดในภพหน้าต่อ ๆ ไป มุ่งถึงการบำเพ็ญคุณธรรมในปัจจุบันชาติ อันจะส่งผลดีให้ได้รับในชาติต่อไป ซึ่งคุณธรรมดังกล่าวนั้นมี 4 ประการ คือ
1) สัทธาสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยศรัทธา มีศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา
2) สีลสัมปทา สมบูรณ์ด้วยศีล คือรักษาศีลให้บริสุทธิ์หมดจด
3) จาคสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยจาคะคือการเสียสละ คือการยอมสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น
4) ปัญญาสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยปัญญา คือการศึกษาธรรมะให้รู้แจ้ง เพื่อความเป็นสัมมาทิฏฐิ รู้ทางแห่งความเสื่อมและความเจริญ และดำเนินตามทางแห่งความเจริญ
3. ปรมัตถะ
ปรมัตถะ ประโยชน์อย่างยิ่ง หมายเอาเป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน เพราะพระนิพพานถือว่าเป็นประโยชน์สูงสุดในพระพุทธศาสนา เป็นประโยชน์ที่ยิ่งยวดกว่าประโยชน์ทั้งหมด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมสั่งสอนเหล่าสาวกก็เพื่อประโยชน์สูงสุดคือพระนิพพานนี้