ผู้ใดครอบงำตัณหาลามก อันล่วงได้ยากในโลก ความโศกทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกจากใบลัว ฉะนั้น
โย เว ตํ สหตี ชมฺมึ ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ
โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ อุทพินฺทุว โปกฺขรา.
[คำอ่าน]
โย, เว, ตัง, สะ-หะ-ตี, ชำ-มิง…..ตัน-หัง, โล-เก, ทุ-รัด-จะ-ยัง
โส-กา, ตำ-หา, ปะ-ปะ-ตัน-ติ…..อุ-ทะ-พิน-ทุ-วะ, โปก-ขะ-รา
[คำแปล]
“ผู้ใดครอบงำตัณหาลามก อันล่วงได้ยากในโลก ความโศกทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกจากใบบัว ฉะนั้น.”
(พุทฺธ) ขุ.ธ. 25/60.
ตัณหา หมายถึง ความทะยานอยาก ความต้องการที่ทำให้เกิดความทุกข์ มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ กามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา
กามตัณหา คือความทะยานอยากในกาม เป็นความต้องการที่เกี่ยวข้องกับความสุขทางกายและจิตใจที่มาจากการสัมผัสกับสิ่งที่พึงพอใจ เช่น ความต้องการทรัพย์สิน เงินทอง อาหาร หรือความสุขทางกามารมณ์
ภวตัณหา คือความอยากมีอยากเป็น เป็นความต้องการที่จะมีสถานะหรือสถานภาพที่สูงขึ้นในสังคม เช่น การต้องการมีอำนาจ ตำแหน่ง หรือการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
วิภวตัณหา คือความอยากหลุดพ้นจากสิ่งที่ไม่ชอบใจ เป็นความต้องการที่จะหลีกหนีหรือกำจัดสิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์ ความไม่พอใจ หรือสิ่งที่ไม่ต้องการออกไปจากชีวิต
ตัณหาทั้ง 3 ประการนี้เป็นสิ่งเลวทราม เพราะเป็นต้นเหตุให้บุคคลกระทำความชั่วต่าง ๆ เช่น การโกง การปล้น หรือการเบียดเบียนผู้อื่น นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุหลักของการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
บุคคลผู้สามารถกำจัดตัณหาได้แล้ว จะไม่ตกอยู่ในความทุกข์หรือความเศร้าโศกในวัฏสงสารอีกต่อไป เขาจะมีชีวิตที่สงบสุขและสามารถพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏได้ด้วยการกำจัดตัณหาให้หมดสิ้น จิตใจของบุคคลนั้นจะเป็นจิตที่ตัณหาไม่สามารถเกาะได้ ประดุจใบบัวที่น้ำไม่สามารถเกาะได้