เมื่อภิกษุมีมานะ ประมาทแล้ว มีความหวังในภายนอก, ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์
อุนฺนฬสฺส ปมตฺตสฺส พาหิราสสฺส ภิกฺขุโน
สีลํ สมาธิ ปญฺญา จ ปาริปูรึ น คจฺฉติ.
[คำอ่าน]
อุน-นะ-ลัด-สะ, ปะ-มัด-ตัด-สะ…..พา-หิ-รา-สัด-สะ, พิก-ขุ-โน
สี-ลัง, สะ-มา-ทิ, ปัน-ยา-จะ…..ปา-ริ-ปู-ริง, นะ, คัด-ฉะ-ติ
[คำแปล]
“เมื่อภิกษุมีมานะ ประมาทแล้ว มีความหวังในภายนอก, ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์.”
(โสณโกฬิวิสเถร) ขุ.เถร. 26/360.
มานะ หรือความอวดดี เป็นอารมณ์ที่มีผลต่อจิตใจของมนุษย์โดยเฉพาะในภิกษุ หากภิกษุมีมานะ หมายความว่าภิกษุกำลังมีความอวดดีหรือหยิ่งยโส ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาจิตใจ ความอวดดีนี้ทำให้ภิกษุไม่สามารถสำรวมจิตใจและรักษาศีลได้อย่างสมบูรณ์
การประมาทเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ขัดขวางการพัฒนาทางจิตวิญญาณของภิกษุ เมื่อภิกษุประมาท หมายถึงการไม่ระมัดระวังในการกระทำและความคิด ความประมาทนี้นำไปสู่การเสียสมาธิ ทำให้จิตใจไม่มั่นคงและไม่สามารถเพ่งพินิจในสิ่งที่สำคัญได้ การไม่สำรวมนี้ทำให้ภิกษุไม่สามารถบรรลุถึงปัญญาที่บริบูรณ์ได้
การมีความหวังในภายนอกเป็นอีกลักษณะหนึ่งที่ขัดขวางการบรรลุถึงศีล สมาธิ และปัญญา ความหวังในภายนอกหมายถึงการยึดมั่นในสิ่งที่อยู่นอกตนเอง เช่น ความมั่งคั่ง ชื่อเสียง หรือการยอมรับจากผู้อื่น การยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้ทำให้จิตใจไม่สงบและไม่มุ่งตรงต่อการบำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่
ศีล เป็นขั้นตอนแรกในการพัฒนาทางจิตวิญญาณ หากภิกษุมีมานะ ประมาท และมีความหวังในภายนอก จะไม่สามารถรักษาศีลให้บริบูรณ์ได้ หมายความว่าภิกษุจะไม่สามารถรักษากาย วาจา และใจให้บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาจิตใจ
สมาธิ เป็นการฝึกจิตให้มั่นคงและสงบ การมีมานะ ประมาท และความหวังในภายนอกทำให้จิตใจไม่สามารถมั่นคงได้ หมายความว่าภิกษุจะไม่สามารถเพ่งพินิจในสิ่งที่สำคัญได้ การขาดสมาธินี้ทำให้จิตใจไม่สามารถเข้าถึงปัญญาและความรู้สึกที่แท้จริงได้
ปัญญา คือความรู้แจ้งแทงตลอดในพระสัทธรรม หากภิกษุไม่สามารถบำเพ็ญศีลและสมาธิได้อย่างบริบูรณ์ ปัญญาก็จะไม่สามารถบริบูรณ์ได้ หมายความว่าภิกษุจะไม่สามารถเจริญปัญญาให้รู้แจ้งแทงตลอดพระสัทธรรมได้ ทำให้ไม่สามารถบรรลุถึงนิพพานและความสงบสุขอย่างแท้จริง.