ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ.
[คำอ่าน]
สี-ลัง, พะ-ลัง, อับ-ปะ-ติ-มัง…..สี-ลัง, อา-วุ-ทะ-มุด-ตะ-มัง
สี-ลัง, อา-พะ-ระ-นัง, เสด-ถัง…..สี-ลัง, กะ-วะ-จะ-มับ-พุ-ตัง
[คำแปล]
“ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์.”
(สีลวเถร) ขุ.เถร. 26/358.
ศีลเป็นกำลังที่ไม่มีกำลังอื่นเปรียบเทียบได้ เพราะศีลหมายถึงความถูกต้องและความดีงามในพฤติกรรมและการกระทำของมนุษย์ เมื่อมีศีล บุคคลนั้นจะมีพลังทางจิตใจที่สูงส่ง และสามารถเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ ได้โดยไม่หวาดกลัว ศีลจึงเป็นกำลังที่เข้มแข็งและไม่สามารถถูกทำลายได้
ศีลเป็นอาวุธที่ดีที่สุด เพราะสามารถใช้ในการต่อสู้กับความชั่วร้ายและการกระทำที่ผิด ศีลช่วยให้เรามีความเข้มแข็งในการตัดสินใจที่ถูกต้องและป้องกันไม่ให้เราหลงทาง เมื่อเรายึดมั่นในศีล เราจะมีความสามารถในการปกป้องตนเองจากความชั่วทั้งหลายได้
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด เพราะเมื่อเรามีศีล เราจะมีคุณค่าและศักดิ์ศรีในสายตาของคนอื่น ศีลทำให้เรามีความสุขและความสงบในจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ด้วยเงินทอง การมีศีลทำให้เรามีความเป็นคนที่ดีและน่าเคารพ
ศีลเป็นเกราะป้องกันอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะศีลช่วยป้องกันเราไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของความผิดพลาดและความชั่วร้าย การมีศีลทำให้เรามีสติและสมาธิในการดำเนินชีวิต ทำให้เราไม่ถูกกดดันหรือหลงทางไปในทางที่ผิด ศีลเป็นเกราะที่ทำให้เราปลอดภัยจากอำนาจของกิเลสที่มุ่งจะคอยครอบงำชักจูงจิตใจของเราให้ทำความชั่ว
นอกจากนี้ ศีลยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เพราะเมื่อเรามีศีล เราจะปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพและความจริงใจ การมีศีลทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยั่งยืนกับคนรอบข้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในชีวิตประจำวัน
ศีลทำให้เรามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและความสงบ เมื่อเรามีศีล เราจะมีความภาคภูมิใจในตนเองและรู้สึกว่าเราได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ศีลทำให้เรามีความสงบสุขในการดำเนินชีวิต นอกจากนี้คนรอบข้างของเราและสังคมที่เราอยู่ย่อมพลอยมีความสงบร่มเย็นไปด้วย.