ผู้ไม่ละโมบ ไม่อำพราง ไม่กระหาย ไม่ลบหลู่ ขจัดโมหะดุจน้ำฝาดแล้ว ไม่มีความมุ่งหวัง ครอบงำโลกทั้งหมด ควรเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด

นิลฺโลลุโป นิกฺกุโห นิปฺปิปาโส

นิลฺโลลุโป นิกฺกุโห นิปฺปิปาโส
นิมฺมกฺโข นิทฺธนฺตกสาวโมโห
นิราสโส สพฺพโลเก ภวิตฺวา
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.

[คำอ่าน]

นิน-โล-ลุ-โป, นิก-กุ-โห, นิบ-ปิ-ปา-โส
นิม-มัก-โข, นิด-ทัน-ตะ-กะ-สา-วะ-โม-โห
นิ-รา-สะ-โส, สับ-พะ-โล-เก, พะ-วิด-ตะ-วา
เอ-โก, จะ-เร, ขัก-คะ-วิ-สา-นะ-กับ-โป

[คำแปล]

“ผู้ไม่ละโมบ ไม่อำพราง ไม่กระหาย ไม่ลบหลู่ ขจัดโมหะดุจน้ำฝาดแล้ว ไม่มีความมุ่งหวัง ครอบงำโลกทั้งหมด ควรเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด.”

(พุทฺธ) ขุ.สุ. 25/336, ขุ.จู. 30/379.

การประพฤติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์นั้น ผู้ปฏิบัติต้องละเว้นจากความละโมบ ความอยากได้อยากมีที่ไม่สิ้นสุดเป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจเร่าร้อน และสร้างความทุกข์ให้แก่ตนเอง การละความละโมบจึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติธรรมมีจิตใจที่สงบและสามารถเดินทางสู่การพ้นทุกข์ได้

นอกจากการละความละโมบแล้ว ความซื่อสัตย์และจริงใจเป็นคุณธรรมที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ผู้ปฏิบัติธรรมควรมีความซื่อสัตย์ต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า และมีความจริงใจต่อการปฏิบัติธรรม ไม่หลอกลวงผู้อื่นหรือแม้แต่ตัวเอง ความซื่อสัตย์และจริงใจนี้เป็นพื้นฐานที่ทำให้การปฏิบัติธรรมเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ และทำให้จิตใจของผู้ปฏิบัติธรรมบริสุทธิ์ตามไปด้วย

การตัดความอยากหรือความปรารถนาในสิ่งที่ไม่จำเป็นเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญ ความอยากนั้นเป็นต้นเหตุของความทุกข์ทั้งปวง หากเราสามารถตัดความอยากได้ จะช่วยให้จิตใจเป็นอิสระจากสิ่งยั่วยวนภายนอก และสามารถอยู่ในสภาพที่สงบสุขได้

การไม่ลบหลู่ผู้อื่นหรือมีความเคารพต่อคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ปฏิบัติธรรมควรตระหนักว่าทุกคนล้วนมีความเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์ การไม่ลบหลู่ผู้อื่นจะช่วยให้เกิดความสงบและสามัคคีในสังคม และทำให้การปฏิบัติธรรมเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ คำว่าไม่ลบหลู่ยังหมายความรวมถึงการไม่ลบหลู่ผู้อื่นด้วยคุณธรรม ไม่มีมานะด้วยคุณธรรมที่ตนได้เข้าถึงแล้วในแต่ละระดับ

โมหะหรือความหลงเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่สำคัญในการปฏิบัติธรรม ผู้ปฏิบัติธรรมต้องพยายามกำจัดโมหะออกจากจิตใจให้หมดสิ้น เพราะความหลงเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นความจริงและทำให้เราหลงทาง การกำจัดโมหะจะช่วยให้เราสามารถมองเห็นสัจธรรมและปฏิบัติธรรมได้อย่างถูกต้อง

การยินดีในการปลีกวิเวกและการอยู่ในที่สงบสงัดเพื่อปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด เป็นวิธีที่ทำให้จิตใจสงบและมีสมาธิในการพิจารณาสัจธรรม การปลีกวิเวกนี้จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถสำรวจตนเองและลดละความวุ่นวายภายนอก ทำให้สามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานที่เป็นที่สุดแห่งความพ้นทุกข์ได้ในที่สุด

เมื่อผู้ปฏิบัติธรรมสามารถละเว้นจากความละโมบ มีความซื่อสัตย์จริงใจ ตัดความอยาก ไม่ลบหลู่ผู้อื่น กำจัดโมหะ และปลีกวิเวกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด ผู้ปฏิบัติธรรมจะสามารถบรรลุผลสำเร็จในการปฏิบัติธรรม และเข้าสู่นิพพานอันเป็นที่สุดแห่งทุกข์ได้ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้.