ภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ อยู่อย่างนี้ ความกลัว ความครั่นคร้าม ขนพองสยองเกล้า จักไม่มี
เอวํ พุทฺธํ สรนฺตานํ ธมฺมํ สงฺฆญฺจ ภิกฺขโว
ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส น เหสฺสติ.
[คำอ่าน]
เอ-วัง, พุด-ทัง, สะ-รัน-ตา-นัง ทำ-มัง, สัง-คัน-จะ, พิก-ขะ-โว
พะ-ยัง, วา, ฉำ-พิ-ตัด-ตัง, วา โล-มะ-หัง-โส, นะ, เหด-สะ-ติ
[คำแปล]
“ภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ อยู่อย่างนี้ ความกลัว ความครั่นคร้าม ขนพองสยองเกล้า จักไม่มี.”
(พุทฺธ) สํ.สุ. 15/232.
พระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ทั้งสามประการนี้ถือเป็น “สรณะ” หรือ “ที่พึ่ง” อันสูงสุดของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบหนทางแห่งการดับทุกข์ พระธรรมเป็นคำสั่งสอนที่นำทางไปสู่ความหลุดพ้น และพระสงฆ์ หมายเอาพระอริยสงฆ์ ผู้สืบทอดและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด
พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งต่อชาวโลกทั้งปวง เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ตรัสรู้ธรรมอันล้ำค่าด้วยพระองค์เอง และนำธรรมะที่ได้ตรัสรู้นั้นนั้นมาเผยแผ่แนะนำชาวโลกให้เข้าใจและปฏิบัติตาม เพื่อให้พ้นจากความทุกข์และถึงความสุขอันแท้จริง
พระธรรมมีคุณค่าในฐานะที่เป็นแนวทางแห่งชีวิต เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้ผู้คนดำเนินชีวิตด้วยความถูกต้อง สร้างสุข สร้างสันติ และสามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ได้อย่างแท้จริง ธรรมะของพระพุทธเจ้าจึงมิใช่เพียงคำสอน แต่เป็นแนวปฏิบัติที่พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง หากผู้ใดนำธรรมะไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้อง ย่อมพบกับความสุขและความเจริญได้อย่างแน่นอน
พระสงฆ์ ซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า มีคุณในฐานะที่ท่านเป็นผู้ศึกษา ฝึกฝน และปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด แล้วนำมาถ่ายทอดสู่ประชาชนให้เข้าใจและนำไปประพฤติปฏิบัติต่อได้ พระสงฆ์จึงเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมโยงระหว่างพระธรรมกับผู้คนทั่วไป ทำให้พระธรรมคงอยู่คู่โลกตราบจนทุกวันนี้
เมื่อพุทธศาสนิกชนระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์อยู่เป็นนิจ ด้วยจิตใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธา เคารพอย่างมั่นคงและบริสุทธิ์ใจ ความหวาดกลัว ความครั่นคร้ามต่อภยันตรายทั้งหลาย ย่อมมลายหายไป เพราะจิตที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ย่อมเป็นจิตที่มั่นคง กล้าหาญ และสงบเย็นอย่างแท้จริง
เมื่อเราระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ด้วยจิตที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างแท้จริง ความกลัวทั้งหลายย่อมค่อย ๆ จางหายไป เพราะในขณะนั้นจิตใจของเราจะตั้งมั่นอยู่ในคุณความดีอันยิ่งใหญ่ และไม่ฟุ้งซ่านไปตามอำนาจของอารมณ์หรือสิ่งเร้าภายนอก ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และอุ่นใจ จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยลักษณะดังนี้
- พระพุทธเจ้า ทรงเป็นแบบอย่างของผู้ที่ชนะความกลัวทั้งปวงด้วยปัญญาและความเมตตา เมื่อเราระลึกถึงพระองค์ เราย่อมได้กำลังใจในการเผชิญกับปัญหา โดยไม่หวั่นไหว
- พระธรรม คือคำสอนที่ช่วยให้เราเข้าใจเหตุแห่งทุกข์และวิธีดับทุกข์ เมื่อจิตเกิดปัญญา มองเห็นความจริงของชีวิต ความกลัวก็ลดลง เพราะเรารู้ว่าทุกสิ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีสิ่งใดควบคุมไม่ได้
- พระสงฆ์ เป็นผู้ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด การระลึกถึงพระสงฆ์ทำให้เรามีกำลังใจในการฝึกตน เห็นว่าความดีนั้นทำได้จริง และความพ้นทุกข์นั้นเกิดขึ้นได้จริง
เมื่อใจตั้งมั่นอยู่ในพระรัตนตรัยแล้ว จิตจะสงบ ไม่สั่นไหว ไม่ถูกรบกวนด้วยความกลัวหรือความประหวั่นพรั่นพรึงทั้งปลาย เพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยวที่ประเสริฐที่สุด ความกลัวจึงหายไปโดยที่เราไม่ต้องขจัดมันด้วยวิธีที่รุนแรง หากแต่ใช้พลังแห่งศรัทธาและปัญญาเป็นเครื่องชำระใจให้สะอาดและมั่นคงนั่นเอง.