พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด คือบ้านก็ตาม ป่าก็ตาม ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม ที่นั้นย่อมเป็นภูมิน่ารื่นรมย์

คาเม วา ยทิวารญฺเญ นินฺเน วา ยทิวา ถเล

คาเม วา ยทิวารญฺเญ     นินฺเน วา ยทิวา ถเล
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ     ตํ ภูมิรามเณยฺยกํ.

[คำอ่าน]

คา-เม, วา, ยะ-ทิ-วา-รัน-เย     นิน-เน, วา, ยะ-ทิ-วา, ถะ-เล
ยัด-ถะ, อะ-ระ-หัน-โต, วิ-หะ-รัน-ติ     ตัง, พู-มิ-รา-มะ-ไน-ยะ-กัง

[คำแปล]

“พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด คือบ้านก็ตาม ป่าก็ตาม ที่ลุ่มก็ตาม ที่ดอนก็ตาม ที่นั้นย่อมเป็นภูมิน่ารื่นรมย์.”

(พุทฺธ) ขุ.ชา. 25/28.

พระอรหันต์คือผู้บรรลุธรรมสูงสุดในพระพุทธศาสนา พระอรหันต์เป็นผู้สิ้นกิเลสแล้วโดยสมบูรณ์ ไม่ถูกกิเลสครอบงำจิตใจอีกต่อไป ชีวิตของท่านจึงเปี่ยมไปด้วยความสงบ เยือกเย็น และเป็นอิสระจากความทุกข์ ความสงบภายในนี้เองที่แผ่กระจายออกไปสู่สิ่งรอบตัว ทำให้สถานที่ที่ท่านพำนักอยู่ แม้จะเป็นป่ารกร้างหรือเพิงพักเล็กๆ ก็กลับกลายเป็นสถานที่ที่ดูสงบร่มเย็นและน่าอยู่อาศัยอย่างน่าอัศจรรย์

คุณลักษณะของพระอรหันต์ที่ทำให้สถานที่ใดก็ตามกลายเป็นสถานที่น่ารื่นรมย์ คือความสงบของใจ ความละวางจากโลภ โกรธ หลง และการดำรงอยู่ด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ท่านไม่ก่อเวร ไม่สร้างความเดือดร้อน และไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นอกุศล ดังนั้นจิตใจของท่านจึงเปล่งประกายความเมตตาและพลังแห่งสันติที่ผู้คนรอบข้างสามารถสัมผัสได้

สถานที่ที่มีพระอรหันต์อยู่อาศัย แม้จะขาดความสะดวกสบายทางวัตถุ แต่กลับเปี่ยมด้วยคุณค่าทางจิตใจ เพราะผู้ที่อยู่ร่วมในสถานที่เดียวกันกับท่าน สามารถได้รับแรงบันดาลใจในการฝึกตน เห็นแบบอย่างของความสงบและพ้นทุกข์ อันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของผู้ปฏิบัติธรรม จึงไม่แปลกที่พระพุทธเจ้าจะตรัสไว้ว่า สถานที่ใดมีพระอรหันต์อยู่ ที่นั้นย่อมน่ารื่นรมย์

คำว่า “น่ารื่นรมย์” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงความบันเทิงเริงรมย์แบบโลกียะ หากแต่หมายถึงความร่มเย็นทางใจ ความสงบจากกิเลสและความวุ่นวายภายนอก ผู้ที่มีศรัทธาและเห็นคุณค่าของธรรมะจะสัมผัสได้ถึงความสงบร่มเย็นอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่เช่นไร หากมีผู้บรรลุธรรมอยู่ ก็จะรู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้แหล่งแห่งความบริสุทธิ์และความสงบร่มเย็น

ดังนั้น สุภาษิตนี้จึงเป็นการเตือนใจให้ผู้คนหันมามองคุณค่าของบุคคลผู้มีธรรมมากกว่าสิ่งแวดล้อมภายนอก และเรียนรู้ที่จะสร้างความสงบจากภายในตนเอง เพราะเมื่อจิตใจสงบเย็นแล้ว แม้โลกภายนอกจะวุ่นวายเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้จิตหวั่นไหว และหากเราสามารถพัฒนาจิตใจของตนให้สงบดังเช่นพระอรหันต์ได้ ที่ใดก็ตามที่เราอยู่ ก็จะกลายเป็นสถานที่รื่นรมย์สำหรับตนเองและผู้อื่นเช่นกัน

ท้ายที่สุด สุภาษิตนี้ยังเป็นการเน้นย้ำว่า สถานที่ที่น่ารื่นรมย์อย่างแท้จริง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหรูหรา สะดวกสบาย หรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายนอก แต่อยู่ที่จิตใจของผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้น หากเป็นผู้บริสุทธิ์จากกิเลสแล้ว ไม่ว่าสถานที่นั้นจะเป็นเช่นไร ย่อมกลายเป็นสถานที่อันประเสริฐ เป็นบ่อเกิดของธรรมะ และเป็นที่พึ่งทางใจของสัตว์โลกอย่างแท้จริง.