เราเรียกผู้ไม่เยื่อใยในกามทั้งหลายนั้นว่า ผู้สงบ เครื่องร้อยรัดของเขาไม่มี เขาจึงข้ามตัณหาว้าวุ่นไปได้
ตํ พฺรูมิ อุปสนฺโตติ กาเมสุ อนเปกฺขินํ
คนฺถา ตสฺส น วิชฺชนฺติ อตาริ โส วิสตฺติกํ.
[คำอ่าน]
ตัง, พรู-มิ, อุ-ปะ-สัน-โต-ติ กา-เม-สุ, อะ-นะ-เปก-ขิ-นัง
คัน-ถา, ตัด-สะ, นะ, วิด-ชัน-ติ อา-ตา-ริ, โส, วิ-สัด-ติ-กัง
[คำแปล]
“เราเรียกผู้ไม่เยื่อใยในกามทั้งหลายนั้นว่า ผู้สงบ เครื่องร้อยรัดของเขาไม่มี เขาจึงข้ามตัณหาว้าวุ่นไปได้.”
(พุทฺธ) ขุ.สุ. 25/501, ขุ.มหา. 29/297.
ความเยื่อใยในกาม หมายถึง ความยึดติด ความใฝ่หา หรือความหวงแหนในกามคุณทั้งห้า ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส ซึ่งเป็นสิ่งที่มากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย แล้วก่อให้เกิดความพอใจ ความเสน่หา และความติดข้องในใจ เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจไม่อาจหลุดพ้นจากวังวนแห่งโลกีย์ เมื่อใดที่จิตมีความเยื่อใยในกาม ก็เปรียบได้กับสัตว์ที่ยังติดบ่วง ติดกับดัก ไม่อาจหลุดออกจากพันธะทางใจได้
บุคคลผู้ที่ยังมีความเยื่อใยในกาม ย่อมไม่สามารถหลุดพ้นจากตัณหาได้ ตัณหาในที่นี้หมายถึง ความทะยานอยากในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะ “กามตัณหา” ที่กระตุ้นให้มนุษย์ไขว่คว้าหาแต่ความสุขทางประสาทสัมผัส เมื่อบุคคลยังปล่อยให้จิตไหลไปตามอำนาจของตัณหา ก็ย่อมเกิดความทุกข์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะความอยากย่อมไม่มีที่สิ้นสุด และก่อให้เกิดความเร่าร้อนอยู่ตลอดเวลา
แต่ในทางกลับกัน บุคคลผู้ไม่มีความเยื่อใยในกาม คือผู้ที่ตระหนักรู้ถึงสภาพไม่เที่ยงของกามคุณทั้งหลาย เห็นว่าแม้สิ่งเหล่านั้นจะให้ความสุขเพียงชั่วคราว แต่แท้จริงแล้วแฝงด้วยทุกข์ เป็นสิ่งลวงใจและผูกมัดจิต เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว เขาย่อมไม่หลงใหล ไม่ติดยึด และไม่แสวงหาสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไป
เมื่อจิตไม่มีความเยื่อใยในกาม ย่อมหลุดพ้นจากอำนาจของตัณหาอย่างแท้จริง จิตจะเป็นอิสระ ไม่หวั่นไหวไปตามสิ่งยั่วยวนภายนอก ไม่เร่าร้อนด้วยความอยาก และไม่อึดอัดด้วยความขัดใจ ชีวิตจึงเต็มไปด้วยความสงบเย็น สงบจากกิเลส สงบจากความรุ่มร้อนทั้งปวง นำไปสู่ความผ่องใสของจิตใจและการดำเนินชีวิตที่เป็นอิสระจากพันธะทั้งหลาย
บุคคลเช่นนี้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็น “ผู้สงบ” เพราะเขามีจิตที่สงบจากความเร่าร้อนของตัณหา สงบจากความยึดมั่นถือมั่นในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และความปรุงแต่งทางใจอื่นๆ ดับความวุ่นวายภายในได้โดยสิ้นเชิง
ดังนั้น การพิจารณาเห็นโทษของกาม และละความเยื่อใยในกาม จึงเป็นหนทางที่สำคัญในการฝึกตนเพื่อความหลุดพ้น การละได้แม้เพียงเล็กน้อย ย่อมนำมาซึ่งความสงบ แต่การละได้ทั้งหมด ย่อมนำไปสู่ความพ้นทุกข์อย่างแท้จริง เป็นหนทางสู่พระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุข.