การบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่ฉลาดในประโยชน์ ก็นำความสุขมาให้ไม่ได้เลย ผู้มีปัญญาทรามย่อมพร่าประโยชน์ ดุจลิงเฝ้าสวนฉะนั้น
น เว อนตฺถกุสเลน อตฺถจริยา สุขาวหา
หาเปติ อตฺถํ ทุมฺเมโธ กปิ อารามิโก ยถา.
[คำอ่าน]
นะ, เว, อะ-นัด-ถะ-กุ-สะ-เล-นะ อัด-ถะ-จะ-ริ-ยา, สุ-ขา-วะ-หา
หา-เป-ติ, อัด-ถัง, ทุม-เม-โท กะ-ปิ, อา-รา-มิ-โก, ยะ-ถา
[คำแปล]
“การบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่ฉลาดในประโยชน์ ก็นำความสุขมาให้ไม่ได้เลย ผู้มีปัญญาทรามย่อมพร่าประโยชน์ ดุจลิงเฝ้าสวนฉะนั้น.”
(โพธิสตฺต) ขุ.ชา.เอก. 27/15.
คำว่า “ประโยชน์” ในความหมายทั่วไป คือ สิ่งที่เป็นผลดี เป็นความเจริญ หรือเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดคุณค่าต่อชีวิต ไม่ว่าจะเป็นต่อตนเองหรือผู้อื่น ประโยชน์มีทั้งที่เป็นทางโลก เช่น ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สุขภาพดี ครอบครัวอบอุ่น และประโยชน์ทางธรรม เช่น ความสงบของจิต ความเข้าใจธรรมะ การละบาปบำเพ็ญบุญ ซึ่งประโยชน์เหล่านี้เป็นเป้าหมายที่มนุษย์พึงแสวงหาและบำเพ็ญให้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การบำเพ็ญประโยชน์โดยไม่มีปัญญา หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนทำ อาจกลายเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์ หรือเลวร้ายกว่านั้น คือก่อให้เกิดโทษแทนที่จะเกิดคุณ เช่น ต้องการช่วยเหลือผู้อื่นแต่กลับทำให้เขาขาดความสามารถพึ่งตนเอง หรือใช้งบประมาณผิดที่ผิดทางจนเสียหายมากกว่าได้ นี่คือการบำเพ็ญประโยชน์ที่ไม่มีความฉลาดรองรับ
ผู้มีปัญญาทราม หรือผู้ที่ไม่มีปัญญา ย่อมไม่สามารถแยกแยะว่าอะไรคือประโยชน์แท้ อะไรคือประโยชน์เทียม บางคนหลงคิดว่าการแสวงหาเงินทองโดยไม่สนวิธีการคือประโยชน์ บางคนเห็นความสุขชั่วคราวเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต ความเข้าใจผิดเช่นนี้ย่อมทำให้พฤติกรรมของเขาเบี่ยงเบนจากทางที่ควรจะเป็น และทำให้เกิดผลเสียทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
เปรียบได้กับ “ลิงเฝ้าสวน” ที่แม้จะตั้งใจทำหน้าที่ปกป้องสวนผลไม้ แต่เพราะไม่มีความรู้ ไม่มีสติปัญญา ก็อาจกลับกลายเป็นตัวการทำลายสวนเสียเอง เช่น หวังจะปัดแมลงให้ผลไม้ แต่กลับใช้แรงมากเกินไปจนทำผลไม้หล่น หรือคิดว่าจะเด็ดผลไม้ให้เจ้าของสวน แต่กลับเด็ดทั้งดิบทั้งสุกมาเสียหายหมด ฉันใดก็ฉันนั้น คนที่ไม่มีปัญญาแม้จะหวังดี ก็อาจทำลายประโยชน์ไปได้
เพราะเหตุนี้ ผู้ที่ประสงค์จะบำเพ็ญประโยชน์จึงต้องเป็นผู้ “ฉลาดในประโยชน์” นั่นคือ รู้จักกลั่นกรอง แยกแยะ และวางแผนอย่างรอบคอบ รู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดควรงด รู้วิธีการที่เหมาะสมกับเวลา สถานที่ และบุคคล รวมถึงสามารถประเมินผลได้อย่างมีวิจารณญาณ ความฉลาดเช่นนี้จะทำให้การบำเพ็ญประโยชน์สัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง
บุคคลที่ฉลาดในประโยชน์จึงไม่ใช่เพียงแค่มีเจตนาดีเท่านั้น แต่ต้องมีปัญญาที่ถูกต้องเป็นฐานรองรับ เขาจึงสามารถสร้างความเจริญแก่ตนเองและผู้อื่นได้อย่างแท้จริง และได้รับความไว้วางใจจากคนรอบข้างในการเป็นผู้นำหรือผู้ให้คำปรึกษาในการทำประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าเราจะเป็นผู้มีใจอาสาในการช่วยเหลือสังคม เป็นผู้นำองค์กร หรือแม้แต่ทำสิ่งใดเพื่อครอบครัวของตนเองก็ตาม หากต้องการให้การบำเพ็ญประโยชน์นั้นสัมฤทธิ์ผล จงฝึกตนให้เป็นผู้ฉลาดในประโยชน์ มีปัญญารอบด้าน และดำเนินการด้วยความรอบคอบ จึงจะสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน.