คนผู้สดับน้อยนี้ ย่อมแก่ไป เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ แต่ปัญญาไม่เจริญ
อปฺปสฺสุตายํ ปุริโส พลิวทฺโทว ชีรติ
มํสานิ ตสฺส วฑฺฒนฺติ ปญฺญา ตสฺส น วฑฺฒติ.
[คำอ่าน]
อับ-ปัด-สุ-ตา-ยัง, ปุ-ริ-โส…..พะ-ลิ-วัด-โท-วะ, ชี-ระ-ติ
มัง-สา-นิ, ตัด-สะ, วัด-ทัน-ติ…..ปัน-ยา, ตัด-สะ, นะ, วัด-ทะ-ติ
[คำแปล]
“คนผู้สดับน้อยนี้ ย่อมแก่ไป เหมือนวัวแก่ อ้วนแต่เนื้อ แต่ปัญญาไม่เจริญ.”
(พุทฺธ) ขุ.ธ. 25/35.
พุทธภาษิตนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในชีวิต คนที่ไม่สนใจที่จะรับฟังหรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มักจะมีการเจริญเติบโตทางร่างกายแต่ไม่มีการพัฒนาทางปัญญา เปรียบเสมือนวัวที่อ้วนแต่อยู่เพียงในเชิงกายภาพเท่านั้น ไม่ได้เจริญเติบโตทางสติปัญญา
การเปรียบเทียบคนที่ไม่เรียนรู้กับวัวแก่ที่อ้วนแต่เนื้อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการเจริญเติบโตทางร่างกายและการเจริญเติบโตทางปัญญา วัวที่อ้วนแต่อายุแต่ไม่สามารถพัฒนาความคิดหรือการเรียนรู้เพิ่มเติมได้ ซึ่งหมายถึงคนที่ไม่สนใจเรียนรู้ก็จะขาดโอกาสในการพัฒนาความสามารถทางสติปัญญา
การไม่สนใจที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองอาจส่งผลเสียต่อชีวิตในหลายด้าน ทั้งในด้านการทำงาน ความสัมพันธ์ และความสามารถในการแก้ไขปัญหา คนที่มีความรู้และปัญญาสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี และมีโอกาสในการประสบความสำเร็จมากกว่า
การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเองและการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ การอ่านหนังสือ หรือการรับฟังคำแนะนำจากผู้อื่น ทุกคนสามารถพัฒนาปัญญาและความสามารถได้หากมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ
คนที่มีปัญญาและความรู้ย่อมมีความสามารถในการตัดสินใจที่ดี มีความคิดสร้างสรรค์และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การมีปัญญายังช่วยให้เราสามารถเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
เราสามารถส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาปัญญาได้โดยการเปิดโอกาสให้ตนเองและผู้อื่นได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และมีการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ในทุกช่วงวัย การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองจะช่วยให้เราสามารถเจริญเติบโตทั้งทางกายและทางปัญญาได้อย่างสมดุล.