คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า สัตบุรุษทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถเป็นธรรม
สจฺจํ เว อมตา วาจา เอส ธมฺโม สนนฺตโน
สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ อหุ สนฺโต ปติฏฺฐิตา.
[คำอ่าน]
สัด-จัง, เว, อะ-มะ-ตา, วา-จา…..เอ-สะ, ทำ-โม, สะ-นัน-ตะ-โน
สัด-เจ, อัด-เถ, จะ, ทำ-เม, จะ…..อะ-หุ, สัน-โต, ปะ-ติด-ถิ-ตา
[คำแปล]
“คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า สัตบุรุษทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถเป็นธรรม.”
(วงฺคีสเถร) ขุ.เถร. 26/434.
คำสัตย์เป็นวาจาไม่ตาย เป็นคำกล่าวที่สื่อถึงความสำคัญของการรักษาสัญญาและคำพูดที่เราให้ไว้กับผู้อื่น เป็นความเชื่อพื้นฐานที่มีอยู่ในสังคมมาอย่างยาวนาน และถือเป็นหนึ่งในธรรมเก่าที่สืบทอดต่อกันมา ความหมายของคำสัตย์ไม่เพียงแค่สื่อถึงการไม่ผิดคำพูดเท่านั้น แต่ยังเป็นการเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราพูดหรือกระทำอีกด้วย
คำว่า “ไม่ตาย” ในที่นี้หมายถึงคำพูดที่เราพูดออกไปแล้ว ไม่อาจลบเลือนไปได้ และสามารถส่งผลต่อทั้งตนเองและผู้อื่นในระยะยาว สัตบุรุษหรือผู้ที่ถือมั่นในธรรม จะไม่พูดคำที่ปราศจากความรับผิดชอบ หรือคำพูดที่ไม่มีน้ำหนัก เพราะคำเหล่านั้นสามารถสร้างความเสียหายและความขัดแย้งได้
สัตบุรุษหรือบุคคลที่มีคุณธรรมจะต้องยึดมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถเป็นธรรม หมายถึงการพูดหรือการกระทำที่สอดคล้องกับความถูกต้องและความเป็นธรรม การรักษาคำสัตย์นั้นไม่ใช่เพียงแค่การรักษาสัญญาในระดับส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการยึดถือหลักการและคุณธรรมในทุกๆ สถานการณ์
การที่สัตบุรุษยึดมั่นในคำสัตย์นั้น เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองและการเคารพต่อผู้อื่น เป็นการสร้างความเชื่อถือและความเคารพจากผู้อื่น ความเชื่อมั่นนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้บุคคลนั้นมีเกียรติและศักดิ์ศรีในสายตาของคนอื่น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นในสังคมด้วย
นอกจากนี้ การยึดมั่นในคำสัตย์ยังเป็นการยึดถือธรรมะหรือหลักคำสอนทางศาสนาที่เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของความจริงใจและความซื่อสัตย์ บุคคลที่ปฏิบัติตามธรรมะนี้จะมีชีวิตที่สงบสุขและได้รับการยอมรับจากสังคมอย่างแท้จริง
การรักษาคำสัตย์ยังเป็นการยืนยันถึงการเป็นบุคคลที่มีจิตใจมั่นคงและไม่หวั่นไหวต่ออำนาจหรือผลประโยชน์ใดๆ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญของสัตบุรุษและเป็นสิ่งที่ทุกคนควรยึดถือในการดำเนินชีวิต.