เพราะนักปราชญ์มีสติตั้งมั่นในธรรมวินัยนี้ ไม่เสพกามและบาป พึงละกามพร้อมทั้งทุกข์ได้ ท่านจึงกล่าวบุคคลนั้นว่าผู้ไปทวนกระแส

ตสฺมา หิ ธีโร อิธุปฏฺฐิตาสติ

ตสฺมา หิ ธีโร อิธุปฏฺฐิตาสติ
กาเม จ ปาเป จ อเสวมาโน
สหาปิ ทุกฺเขน ชเหยฺย กาเม
ปฏิโสตคามีติ ตมาหุ ปุคฺคลํ.

[คำอ่าน]

ตัด-สะ-หมา, หิ, ที-โร, อิ-ทุ-ปัด-ถิ-ตา-สะ-ติ
กา-เม, จะ, ปา-เป, จะ, อะ-เส-วะ-มา-โน
สะ-หา-ปิ, ทุก-เข-นะ, ชะ-ไห-ยะ, กา-เม
ปะ-ติ-โส-ตะ-คา-มี-ติ, ตะ-มา-หุ, ปุก-คะ-ลัง

[คำแปล]

“เพราะนักปราชญ์มีสติตั้งมั่นในธรรมวินัยนี้ ไม่เสพกามและบาป พึงละกามพร้อมทั้งทุกข์ได้ ท่านจึงกล่าวบุคคลนั้นว่าผู้ไปทวนกระแส.”

(พุทฺธ) องฺ.จตุกฺก. 21/7.

บุคคลผู้มีสติมั่นคงและประพฤติตนตามหลักธรรมวินัยในพุทธศาสนา เป็นผู้ที่ตระหนักรู้ถึงความเป็นจริงของชีวิตและธรรมชาติทั้งหลาย การมีสติอยู่เสมอเป็นการป้องกันตนเองจากการหลงใหลในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ บุคคลที่ฝึกฝนสติปัญญาอย่างต่อเนื่อง จะสามารถควบคุมจิตใจให้มั่นคง ไม่ให้ฟุ้งซ่านไปตามสิ่งเร้าภายนอกซึ่งนำไปสู่ความทุกข์

การงดเว้นจากการเสพกาม และไม่ยินดีในกามคุณ ถือเป็นการปฏิบัติที่ทวนกระแสของกิเลสตัณหาที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ทั่วไป กิเลสเป็นเสมือนกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากที่พาให้ผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนตนเองไปสู่ความทุกข์อย่างไม่รู้จบ แต่บุคคลที่สามารถงดเว้นจากกามคุณและมีสติรู้เท่าทันกิเลส ย่อมไม่ถูกกระแสนั้นพัดพาไป

นอกจากการงดเว้นจากกามแล้ว บุคคลผู้ปฏิบัติธรรมยังต้องหลีกเลี่ยงการทำบาปทุกประเภท การหลีกเลี่ยงบาปนี้ไม่เพียงเพื่อป้องกันตนเองจากการได้รับผลกรรมที่ไม่ดีในภายหน้า แต่ยังเป็นการปฏิบัติเพื่อสร้างบุญกุศลให้กับตนเอง ให้มีความสงบเย็น และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การปฏิบัติธรรมที่สูงขึ้น

บุคคลที่สามารถปฏิบัติตามหลักธรรมวินัยเช่นนี้ได้ ย่อมถือว่าเป็นผู้ที่สามารถปฏิบัติตนทวนกระแสของกิเลสตัณหาได้อย่างแท้จริง การทวนกระแสของกิเลสตัณหานี้เปรียบเสมือนการว่ายน้ำทวนกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก แม้ว่าจะยากลำบาก แต่หากมีสติและปัญญาคอยเป็นเครื่องนำทาง ก็ย่อมสามารถฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายไปได้

เมื่อบุคคลสามารถควบคุมจิตใจและการกระทำของตนได้อย่างดีแล้ว จิตใจย่อมจะคลายจากความยึดติดในโลกภายนอก และความสงบสุขที่แท้จริงจะเกิดขึ้นภายใน การพ้นจากความยึดมั่นในสิ่งต่าง ๆ ในโลกภายนอกนี้เอง เป็นการนำตนเข้าสู่ความพ้นทุกข์อย่างแท้จริง

การปฏิบัติตามหลักธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ย่อมทำให้บุคคลนั้นเข้าถึงนิพพานได้ในที่สุด นิพพานเป็นภาวะที่ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความยึดมั่น และไม่มีความปรารถนาเหลืออยู่ในจิตใจ เมื่อจิตใจปราศจากความยึดติดทั้งหลาย บุคคลนั้นย่อมได้รับความสุขที่แท้จริงและนิรันดร์.