โจรผู้มีความชั่ว ถูกเขาจับได้ซึ่งหน้า ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตน ฉันใด ประชาผู้มีความชั่ว ละไปแล้ว ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตนในโลกหน้า ฉันนั้น
โจโร ยถา สนฺธิมุเข คหีโต
สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธมฺโม
เอวํ ปชา เปจฺจ ปรมฺหิ โลเก
สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธมฺโม.
[คำอ่าน]
โจ-โร, ยะ-ถา, สัน-ทิ-มุ-เข, คะ-หี-โต
สะ-กำ-มุ-นา, หัน-ยะ-ติ, ปา-ปะ-ทำ-โม
เอ-วัง, ปะ-ชา, เปด-จะ, ปะ-รำ-หิ, โล-เก
สะ-กำ-มุ-นา, หัน-ยะ-ติ, ปา-ปะ-ทำ-โม
[คำแปล]
“โจรผู้มีความชั่ว ถูกเขาจับได้ซึ่งหน้า ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตน ฉันใด ประชาผู้มีความชั่ว ละไปแล้ว ย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตนในโลกหน้า ฉันนั้น.”
(รฏฺฐปาลเถร) ขุ.เถร. 26/379.
ในโลกนี้ “ผู้กระทำผิดย่อมได้รับผลแห่งการกระทำนั้น” เป็นหลักความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ โจรหรือบุคคลผู้ล่วงละเมิดกฎหมายบ้านเมือง แม้จะหลบหนีการจับกุมไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อวันหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตามจับได้ ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ถูกจำคุกหรือถูกลงโทษตามความผิดที่ได้ก่อไว้ ซึ่งสร้างทุกข์ทรมานทางกายและจิตใจให้แก่ตนเอง เพราะนั่นคือผลที่ตามมาจากการกระทำอันผิดกฎหมาย
ในทำนองเดียวกัน คนที่ทำความชั่วหรือก่อกรรมทำบาปไว้มาก แม้ในยามยังมีชีวิตอาจหลีกเลี่ยงผลกรรมนั้นได้ แต่เมื่อสิ้นชีวิต ผลแห่งกรรมนั้นย่อมไม่สูญหายไปไหน กฎแห่งกรรมจะทำหน้าที่ของมันอย่างยุติธรรม กรรมชั่วย่อมนำพาผลแห่งความทุกข์ ความเดือดร้อน และความเสื่อมเสียมาสู่ผู้กระทำอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย
ผู้ที่เข้าใจหลักแห่งกรรมย่อมตระหนักว่า การกระทำใดๆ ที่ผิดศีลธรรม ผิดจริยธรรม หรือเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น แม้ไม่มีใครรู้เห็น หรือแม้จะรอดพ้นจากโทษทางโลก แต่ไม่อาจหลุดพ้นจากผลแห่งกรรมนั้นได้ ความชั่วที่ก่อไว้เปรียบเสมือนเมล็ดพืชที่หว่านลงในดิน แม้จะยังไม่ผลิดอกออกผลในทันที แต่วันหนึ่งย่อมงอกงามและให้ผลเสมอ
ตรงกันข้าม ผู้ที่รักษาศีลประพฤติดี ทำความดีไว้เสมอ แม้จะไม่โดดเด่นในสายตาผู้คน หรืออาจพบเจออุปสรรคในชีวิต แต่กรรมดีที่สั่งสมไว้ย่อมนำผลอันเป็นมงคลมาให้ในเวลาที่เหมาะสม ความสงบ ความเจริญ และความร่มเย็นทางใจจะตามมา เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการกระทำที่บริสุทธิ์
ดังนั้น การมีสติรู้เท่าทันการกระทำของตนเองเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ทุกการตัดสินใจล้วนมีผลต่ออนาคตทั้งในโลกนี้และโลกหน้า การเลือกกระทำความดีจึงเป็นหนทางที่มั่นคงกว่า แม้อาจต้องอดทนในบางครั้ง แต่ผลแห่งความดีจะเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริงเมื่อถึงเวลาที่ต้องเผชิญกับวิบากกรรม
ขอให้เราทั้งหลายตระหนักไว้เสมอว่า กฎแห่งกรรมไม่อาจหลีกหนีพ้นได้เลย ผู้ใดก่อกรรมไว้ย่อมได้รับผลกรรมนั้นอย่างเที่ยงธรรม ฉะนั้น การดำเนินชีวิตโดยไม่เบียดเบียนผู้อื่น มีศีลธรรม และรู้ผิดชอบชั่วดี จึงเป็นทางแห่งความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน.