ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น

ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ กุสเลน ปิถียติ

ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ     กุสเลน ปิถียติ
โสมํ โลกํ ปภาเสติ     อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

[คำอ่าน]

ยัด-สะ, ปา-ปัง, กะ-ตัง, กำ-มัง     กุ-สะ-เล-นะ, ปิ-ถี-ยะ-ติ
โส-มัง, โล-กัง, ปะ-พา-เส-ติ     อับ-พา, มุด-โต-วะ, จัน-ทิ-มา

[คำแปล]

“ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น.”

(องฺคุลิมาล) ม.ม. 13/487.

บุคคลในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดเลย ความผิดพลาดในชีวิตอาจเกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากความหลงผิด หรือจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่เขาเคยทำผิดพลาดแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเมื่อรู้ตัวแล้ว เขามีความสำนึกผิดและกล้าที่จะกลับตัวกลับใจหรือไม่

คนที่เคยทำกรรมชั่วมาก่อน หากมีจิตใจเข้มแข็งพอที่จะยอมรับความผิดของตนเอง และหันกลับมาประพฤติชอบ ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม ดำเนินชีวิตตามแนวทางของคนดี แม้ในอดีตจะเคยผิดพลาด ก็ยังสามารถกลายเป็นคนดีในปัจจุบันและอนาคตได้

การเลิกจากความชั่วเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ง่าย ๆ ต้องอาศัยความกล้าหาญ ความจริงใจ และความมุ่งมั่นอย่างสูง คนที่ทำได้เช่นนี้จึงควรได้รับโอกาสและกำลังใจจากสังคม ไม่ใช่การซ้ำเติม

เมื่อเขากลับใจแล้วหันมาทำความดีอย่างต่อเนื่อง ความดีนั้นจะค่อย ๆ กลบลบล้างความชั่วที่เคยกระทำ ความดีจะเริ่มงอกเงยขึ้นในจิตใจของเขา และเมื่อกระทำความดีซ้ำ ๆ เขาย่อมกลายเป็นคนดีที่มีคุณค่าต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติได้

คนที่กลับใจจากความชั่วได้ ย่อมเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น เป็นแรงบันดาลใจให้คนอีกมากมายที่กำลังหลงผิดเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ความดีนั้นมีพลังมากพอจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของใครคนหนึ่งได้อย่างสิ้นเชิง

ในทางตรงกันข้าม คนที่ไม่สำนึกผิดเลย ยังคงหลงใหลในความชั่ว ไม่เห็นคุณค่าของศีลธรรม ย่อมก่อให้เกิดโทษแก่ตนเองและสังคม ไม่เพียงไม่ช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้น แต่ยังเป็นภาระที่บั่นทอนความสงบสุขของส่วนรวมอีกด้วย

เพราะฉะนั้น บุคคลที่เคยพลาดพลั้งในอดีต แต่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ย่อมนับว่าเป็นผู้มีค่าควรแก่การยกย่อง เหมือนดวงจันทร์ที่เคยถูกเมฆหมอกบดบัง ครั้นพ้นจากเมฆแล้ว ก็สามารถส่องแสงสว่างงดงามให้แก่โลกใบนี้ได้อีกครั้ง

ความดีที่บุคคลนั้นได้สร้างขึ้นภายหลัง จะกลายเป็นแสงสว่างนำทางให้ตนเองและผู้อื่น เป็นพลังที่ช่วยฟื้นฟูสังคมให้กลับมามีความหวัง มีความงดงาม เหมือนแสงจันทร์ที่ส่องแสงในยามค่ำคืน สร้างความสงบเย็นให้แก่ใจของผู้ที่มองเห็น.