คนเหล่าใด อันเทวทูตตักเตือนแล้ว ยังประมาทอยู่ คนเหล่านั้น เข้าถึงกายอันเลว ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลาน

โจทิตา เทวทูเตหิ เย ปมชฺชนฺติ มาณวา

โจทิตา เทวทูเตหิ     เย ปมชฺชนฺติ มาณวา
เต ทีฆรตฺตํ โสจนฺติ     หีนกายูปคา นรา.

[คำอ่าน]

โจ-ทิ-ตา, เท-วะ-ทู-เต-หิ     เย, ปะ-มัด-ชัน-ติ, มา-นะ-วา
เต, ที-คะ-รัด-ตัง, โส-จัน-ติ     หี-นะ-กา-ยู-ปะ-คา, นะ-รา

[คำแปล]

“คนเหล่าใด อันเทวทูตตักเตือนแล้ว ยังประมาทอยู่ คนเหล่านั้น เข้าถึงกายอันเลว ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลาน.”

(พุทฺธ) ม.อุป. 14/346.

เทวทูต ในพระพุทธศาสนา หมายถึง นิมิตที่พระโพธิสัตว์ได้ทรงเห็น อันเป็นเหตุปรารถที่จะเสด็จออกผนวช มี 4 อย่าง คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ

ความแก่ ความเจ็บ และความตาย ถือเป็นสัจธรรมของชีวิตที่ทุกคนต้องเผชิญ และเปรียบเสมือนกระจกสะท้อนความจริงที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ เทวทูตเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่เตือนให้มนุษย์มีสติ ระลึกถึงความไม่เที่ยงของชีวิต และตื่นรู้ต่อทุกข์ที่เกิดจากการเวียนว่ายตายเกิด ส่วนสมณะ เป็นนิมิตแห่งการแสวงหาทางหลุดพ้นจากความแก่ ความเจ็บ และความตาย

คนแก่ เป็นเทวทูตองค์แรกที่แสดงถึงการเสื่อมสภาพของร่างกาย แม้แต่ผู้ที่เคยหนุ่มแน่น แข็งแรง หรือมีอำนาจล้นฟ้า เมื่อถึงเวลาก็ต้องยอมจำนนต่อความชรา ไม่มีใครหนีพ้นความแก่ได้ ภาพของคนแก่ที่หลังโก่ง ผมหงอก สายตาพร่ามัว และร่างกายอ่อนแรง จึงเตือนใจให้เห็นว่าเวลาและอายุไม่คอยใคร ทุกคนควรใช้เวลาชีวิตให้คุ้มค่า ไม่มัวหลงอยู่กับความเพลิดเพลินแห่งวัยหนุ่มสาว

คนเจ็บ เป็นเทวทูตองค์ที่สอง แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่สามารถเจ็บไข้ได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะยากดีมีจน ก็ล้วนหนีไม่พ้นโรคภัยไข้เจ็บ ความเจ็บป่วยทำให้เห็นว่าเรามีร่างกายที่ไม่มั่นคง ไม่เป็นของเราอย่างแท้จริง เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ความกังวล และความอ่อนแอ จึงควรหมั่นพิจารณากายนี้ตามความเป็นจริงเพื่อไม่ยึดมั่นถือมั่น และแสวงหาหนทางดับทุกข์ให้แก่ตนเอง

คนตาย คือเทวทูตองค์ที่สาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งจุดจบของชีวิต ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกหนีความตายได้ ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว ความตายเป็นความจริงที่ใกล้ตัว แต่คนส่วนใหญ่มักหลงลืม เมื่อเห็นศพหรือได้ยินข่าวการตายของใคร ก็เป็นโอกาสให้เราฉุกคิดว่า วันหนึ่งเราก็ต้องตายเช่นกัน แล้วเราพร้อมหรือยัง? จึงควรใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท เตรียมจิตใจให้พร้อมรับความตายด้วยความสงบ

สมณะ หรือผู้ประพฤติธรรม เป็นเทวทูตองค์สุดท้าย แสดงให้เห็นหนทางออกจากวัฏสงสาร เป็นทางสายเอกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแนะนำไว้ คือ การบำเพ็ญสมณธรรม การปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิง สมณะจึงเป็นเครื่องเตือนใจว่ามนุษย์สามารถหลุดพ้นจากความแก่ เจ็บ ตายได้ หากตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธองค์

ผู้ที่เห็นเทวทูตทั้ง 4 แล้ว ยังประมาท ยังมัวเมาในความสุขจอมปลอม ย่อมต้องพบกับความเศร้าโศกในวัฏสงสารอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบ ดังนั้น การเห็นเทวทูตไม่ใช่เพียงแค่เห็นด้วยตา แต่ต้องเห็นด้วยใจ เห็นด้วยปัญญา เห็นเป็นเครื่องปลุกให้ตื่นจากความหลง เพื่อเร่งบำเพ็ญสมณธรรม ให้หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงอย่างแท้จริง.