พระราชา ดีที่ทรงยินดีในธรรม, คน ดีที่มีปัญญา, เพื่อน ดีที่ไม่ประทุษร้ายมิตร, สุข อยู่ที่ไม่ทำบาป
สาธุ ธมฺมรุจี ราชา สาธุ ปญฺญาณวา นโร
สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ ปาปสฺสากรณํ สุขํ.
[คำอ่าน]
สา-ทุ, ทำ-มะ-รุ-จี, รา-ชา…..สา-ทุ, ปัน-ยา-นะ-วา, นะ-โร
สา-ทุ, มิด-ตา-นะ-มัด-ทุบ-โพ…..ปา-ปัด-สา-กะ-ระ-นัง, สุ-ขัง
[คำแปล]
“พระราชา ดีที่ทรงยินดีในธรรม, คน ดีที่มีปัญญา, เพื่อน ดีที่ไม่ประทุษร้ายมิตร, สุข อยู่ที่ไม่ทำบาป.”
(โพธิสตฺต) ขุ.ชา.ปญฺญาส. 28/20.
“พระราชา” คือพระเจ้าแผ่นดินผู้ปกครองประเทศ ผู้เป็นเจ้าแห่งคนทั้งหลายในประเทศ พระราชาจะได้ชื่อว่าเป็นพระราชาที่ดีนั้น ต้องทรงดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรม 10 ประการ คือ
- ทาน การให้ หมายถึง การสละทรัพย์สิ่งของเพื่อช่วยเหลือสมาชิกของหมู่คณะที่ด้อยโอกาสและอ่อนแอกว่าผู้อื่น
- ศีล การตั้งอยู่ในศีล หมายถึง มีความประพฤติดีงาม เป็นตัวอย่างแก่ผู้คนทั่วไปได้ เป็นที่นับถือของคนทั่วไปได้
- ปริจจาคะ การบริจาค หมายถึง การเสียสละความสุขสำราญของตน เพื่อประโยชน์สุขของหมู่คณะและสังคมส่วนรวมทั่วไป
- อาชชวะ ความซื่อตรง หมายถึง เป็นผู้ทรงสัตย์ ปฏิบัติการงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่หลอกลวงประชาชน มีความจริงใจอยู่เสมอ
- มัททวะ ความอ่อนโยน หมายถึง มีกิริยาสุภาพ มีวาจาอ่อนหวาน ไม่หยาบคาย ไม่เย่อหยิ่ง มีแต่ความนุ่มนวลละมุนละไม
- ตบะ คือ ความเพียรเป็นเครื่องแผดเผากิเลสตัณหามิให้เข้ามาครอบงำจิตใจได้
- อักโกธะ ความไม่โกรธ คือ มีจิตใจมั่นคง ไม่ฉุนเฉียว สามารถอดกลั้นความไม่พอใจเอาไว้ได้ มีแต่ความสุขุมเยือกเย็น
- อวิหิงสา ความไม่เบียดเบียน คือ ไม่กดขี่ข่มเหงคนอื่น ไม่หลงระเริงในอำนาจแล้วทำอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่นโดยอำเภอใจ
- ขันติ ความอดทน คือ สามารถที่จะอดทนต่องานหนักได้ สามารถเผชิญกับความยากลำบากได้อย่างเข้มแข็ง
- อวิโรธนะ ความไม่คลาดจากธรรม คือ ความตั้งมั่นในธรรม ไม่หวั่นไหวในเรื่องดีเรื่องร้าย ไม่หลงใหลในลาภสักการะ
“คน” หมายถึง คนทั่วไปในโลกนี้ ไม่จำกัดชาติชั้นวรรณะ ไม่จำกัดศาสนาหรือภาษา ไม่จำกัดเพศหรือวัย คนจะดีได้นั้น จะต้องมีปัญญา ซึ่งคำว่า “ปัญญา” ในที่นี้หมายเอาปัญญาในทางธรรม รู้แยกแยะผิดชอบชั่วดี รู้บาปบุญคุณโทษ รู้จักประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ มีความประพฤติดี ดำรงอยู่ในศีลธรรม
คุณสมบัติของคนดีนั้นมีอยู่ 7 ประการ เรียกว่า สัปปุริสธรรม ซึ่งแปลว่า ธรรมของสัตบุรุษ หรือ ธรรมของคนดี 7 ข้อ คือ
- ธัมมัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักเหตุ
- อัตถัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักผล
- อัตตัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักตน
- มัตตัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักความพอดี
- กาลัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักกาล
- ปริสัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักประชุมชน
- บุคคลปโรปรัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักบุคคล
“เพื่อน” หมายถึง บุคคลผู้เป็นมิตร บุคคลผู้คบค้าสมาคมกันในฐานะมิตรสหาย เพื่อน จะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีนั้น จะต้องเป็นผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร คือเป็นเพื่อนที่มีความจริงใจไม่ทำลายเพื่อน คุณสมบัติของเพื่อนที่ดีในทางพระพุทธศาสนา มี 4 ลักษณะ เรียกว่า มิตรแท้ 4 จําพวก คือ
- มิตรมีอุปการะ
- มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
- มิตรแนะนำประโยชน์
- มิตรมีความรักใคร่
“สุข” คือ ความรู้สึกสบายกายสบายใจ สภาวะหรือสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นแล้วทำให้มีความสบายกายและสบายใจ ไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ ความสุขจะเกิดขึ้นได้จากการกระทำของบุคคล สาเหตุที่ทำให้เกิดความสุขได้คือการไม่ทำบาป ดังคำว่า “ปาปานํ อกรณํ สุขํ” แปลว่า “การไม่ทำบาป นำสุขมาให้” และการทำบุญ ดังคำว่า “สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย” แปลว่า “การสั่งสมบุญ นำสุขมาให้”.