คนใดมีท้องพร่อง ย่อมทนความหิวได้ ผู้ฝึกตนมีความเพียร กินดื่มพอประมาณ ไม่ทำบาปเพราะอาหาร ท่านเรียกคนนั้นแลว่า สมณะในโลก
โอโนทโร โย สหเต ชิฆจฺฉํ
ทนฺโต ตปสฺสี มิตปานโภชโน
อาหารเหตุ น กโรติ ปาปํ
ตํ เว นรํ สมณมาหุ โลเก.
[คำอ่าน]
โอ-โน-ทะ-โร, โย, สะ-หะ-เต, ชิ-คัด-ฉัง
ทัน-โต, ตะ-ปัด-สี, มิ-ตะ-ปา-นะ-โพ-ชะ-โน
อา-หา-ระ-เห-ตุ, นะ, กะ-โร-ติ, ปา-ปัง
ตัง, เว, นะ-รัง, สะ-มะ-นะ-มา-หุ, โล-เก
[คำแปล]
“คนใดมีท้องพร่อง ย่อมทนความหิวได้ ผู้ฝึกตนมีความเพียร กินดื่มพอประมาณ ไม่ทำบาปเพราะอาหาร ท่านเรียกคนนั้นแลว่า สมณะในโลก.”
ขุ.ชา.ทสก. 27/274.
ความหิวถือเป็นสิ่งธรรมดาของชีวิตที่ทุกคนต้องประสบ แต่ในทางธรรม ความหิวถือว่าเป็น “โรคอย่างยิ่ง” เพราะความหิวไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ร่างกายอ่อนแอเท่านั้น หากแต่ยังเบียดเบียนจิตใจของคนให้ต้องทนทุกข์ตลอดเวลา ความหิวสามารถทำให้จิตใจเร่าร้อน กระสับกระส่าย และไม่อาจตั้งมั่นอยู่ในความสงบได้ เป็นความทุกข์ที่ผลักดันให้มนุษย์ดิ้นรนอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อจะพ้นจากสภาพนั้น
เพราะเหตุที่ความหิวสร้างความทุกข์และเร่งเร้าให้ต้องหาอาหารมาบรรเทา ความหิวจึงกลายเป็นเหตุแห่งบาปในหลายกรณี คนจำนวนไม่น้อยยอมทำผิดศีลธรรม เช่น ลักขโมย พูดเท็จ คดโกง หรือแม้แต่เบียดเบียนผู้อื่น เพียงเพื่อให้ได้อาหารมากินดับความหิว ความหิวจึงไม่ใช่เพียงปัญหาทางกาย แต่ยังเป็นแรงผลักดันที่อาจทำให้คนละเมิดศีลธรรมโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม บุคคลผู้ฝึกตน บำเพ็ญเพียรเพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์ ย่อมเรียนรู้ที่จะควบคุมความหิวด้วยปัญญา เขารู้จักประมาณในการบริโภค ไม่กินเกินความจำเป็น และฝึกใจให้อดทนต่อความหิวอย่างมีสติ แม้จะเผชิญกับความหิวอย่างหนัก ก็ยังคงยึดมั่นในศีลธรรม ไม่ยอมทำบาปเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการชั่วคราวของร่างกาย
ผู้ที่ฝึกตนเช่นนี้ มีความอดกลั้นและรู้เท่าทันต่อกิเลส ย่อมไม่ตกเป็นทาสของความอยาก พวกเขาเข้าใจว่าอาหารเป็นเพียงสิ่งหล่อเลี้ยงร่างกายชั่วคราว ไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต จึงไม่ยึดติด ไม่แสวงหาอาหารด้วยความโลภ หรือด้วยวิธีอันผิดศีลธรรม ความสามารถในการยึดมั่นในศีลธรรมแม้ในยามที่เกิดทุกข์จากความหิว ถือเป็นคุณธรรมที่สูงส่ง
บุคคลผู้ที่รู้จักประมาณในการบริโภค ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และไม่ทำบาปเพื่อปากท้อง ย่อมได้ชื่อว่าเป็น “สมณะ” คือผู้ที่สงบระงับจากบาป ผู้ที่ฝึกตนให้มีความอดทนต่อความทุกข์ทรมานอันเกิดจากความหิว ไม่ทำบาปเพื่อปากท้อง ย่อมเป็นผู้ฝึกจิตใจให้มั่นคง เข้มแข็ง และไม่หวั่นไหวไปกับความทุกข์ทางกาย ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตตามหลักศีลธรรม
ดังนั้น การฝึกตนให้รู้จักประมาณและอดทนต่อความหิว จึงเป็นการพัฒนาตนเองทางร่างกาย และยังเป็นการขัดเกลาจิตใจให้ห่างไกลจากบาปอีกด้วย ผู้ใดสามารถทำได้เช่นนี้ ย่อมดำเนินอยู่บนทางแห่งความสงบ ความหลุดพ้น และเป็นผู้มีค่าควรแก่การเคารพยกย่องในหมู่ชน.