มุนีเหล่าใด เป็นผู้ไม่เบียดเบียน สำรวมทางกายเป็นนิตย์ มุนีเหล่านี้ ย่อมไปสู่สถานไม่จุติ ที่ไปแล้วไม่ต้องเศร้าโศก

อหึสกา เย มุนโย

อหึสกา เย มุนโย     นิจฺจํ กาเยน สํวุตา
เต ยนฺติ อจฺจุตํ ฐานํ     ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร.

[คำอ่าน]

อะ-หิง-สะ-กา, เย, มุ-นะ-โย     นิด-จัง, กา-เย-นะ, สัง-วุ-ตา
เต, ยัน-ติ, อัด-จุ-ตัง, ถา-นัง     ยัด-ถะ, คัน-ตะ-วา, นะ, โส-จะ-เร

[คำแปล]

“มุนีเหล่าใด เป็นผู้ไม่เบียดเบียน สำรวมทางกายเป็นนิตย์ มุนีเหล่านี้ ย่อมไปสู่สถานไม่จุติ ที่ไปแล้วไม่ต้องเศร้าโศก.”

(พุทฺธ) ขุ.ธ. 25/45.

คำว่า เบียดเบียน หมายถึงการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นได้รับทุกข์หรือเกิดความเดือดร้อน การเบียดเบียนในทางพุทธศาสนาไม่ได้จำกัดเพียงการกระทำที่รุนแรง เช่น การทำร้ายร่างกายหรือการฆ่า แต่ยังครอบคลุมถึงการกระทำทางวาจาและทางใจที่เป็นการทำลายความสงบสุขของผู้อื่น ซึ่งตรงกับหลักศีลในพุทธศาสนาที่สอนให้เว้นจากการกระทำที่เป็นโทษ

มุนี คือบุคคลที่หลุดพ้นจากความยึดมั่นในตัวตน และไม่ทำร้ายผู้อื่น ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม การไม่เบียดเบียนจึงเป็นการปฏิบัติสำคัญที่ทำให้จิตใจของมุนีสงบจากความโกรธ ความอาฆาต และความเกลียดชัง

การสำรวมทางกาย คือการควบคุมและระงับการกระทำทางกายไม่ให้เป็นไปในทางที่ผิดและไม่เบียดเบียนผู้อื่น ซึ่งหมายถึงการไม่กระทำกรรมที่เป็นบาป เช่น การทำร้ายหรือฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ หรือการกระทำอันไม่เหมาะสมทั้งหลาย

การสำรวมตนทางกายนำไปสู่การมีจิตใจที่บริสุทธิ์ เพราะการกระทำทางกายที่ดีเป็นพื้นฐานในการเจริญศีล การที่มุนีสำรวมตนเองเสมอเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการละเว้นจากบาปเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกฝนจิตใจให้เข้าถึงความสงบและหลุดพ้นจากการยึดติดในสิ่งทั้งปวงอีกด้วย

คำว่า จุติ ในที่นี้หมายถึงการเปลี่ยนภพภูมิหรือการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร การที่มุนีไปสู่สถานไม่จุติ หมายถึงการเข้าสู่พระนิพพานหรือการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ การไม่ต้องกลับมาเกิดอีก หมายถึงการได้บรรลุสภาวะของความสิ้นทุกข์อย่างแท้จริง

ในพุทธศาสนา การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดเป็นเป้าหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรม บุคคลผู้ที่ไม่ต้องเกิดใหม่ในภพภูมิต่างๆ จะไม่ต้องเผชิญกับทุกข์และความเศร้าโศกอีกต่อไป.