ผู้ใดรู้จบพระเวทในโลกนี้ สละเครื่องข้องในภพน้อยใหญ่ได้แล้ว ผู้นั้นปราศจากตัณหา ไม่มีทุกข์ ฯลฯ
วิทฺวา จ โย เวทคู นโร อิธ
ภวาภเว สงฺคมิมํ วิสชฺช
โส วีตตณฺโห อนิโฆ นิราโส
อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมิ.
[คำอ่าน]
วิด-ทะ-วา, จะ, โย, เว-ทะ-คู, นะ-โร, อิ-ทะ
พะ-วา-พะ-เว, สัง-คะ-มิ-มัง, วิ-สัด-ชะ
โส, วี-ตะ-ตัน-โห, อะ-นิ-โค, นิ-รา-โส
อะ-ตา-ริ, โส, ชา-ติ-ชะ-รัน-ติ, พรู-มิ
[คำแปล]
“ผู้ใดรู้จบพระเวทในโลกนี้ สละเครื่องข้องในภพน้อยใหญ่ได้แล้ว ผู้นั้นปราศจากตัณหา ไม่มีทุกข์ ไม่มีความทะเยอทะยานอยาก เรากล่าวว่า เขาข้ามชาติและชราได้.”
(พุทฺธ) ขุ.สุ. 25/536, ขุ.จู. 30/104, 107.
พระเวท คือตำราแสดงคำสวดอ้อนวอนเทวดา การบูชายัญ และมนต์สำหรับสวดอ้อนวอนเซ่นสรวงในศาสนาพราหมณ์ อันประกอบด้วย อิรุพเพท ยชุพเพท และสามเพท
เครื่องข้อง คือเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ อันได้แก่ โยคะ 4 ประการ คือ
- กามโยคะ เครื่องข้องคือกาม
- ภวโยคะ เครื่งอข้องคือภพ
- ทิฏฐิโยคะ เครื่องข้องคือทิฏฐิ
- อวิชชาโยคะ เครื่องข้องคืออวิชชา
โยคะทั้ง 4 ประการนี้ เป็นกิเลสที่ประกอบสัตว์ไว้ในภพ คือทำให้สรรพสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารไม่รู้จบ ต้องประสบกับทุกข์ใหญ่ในสังสารวัฏไม่จบสิ้น
บุคคลผู้รู้จบพระเวททั้ง 3 คือศึกษาจนเจนจบในคัมภีร์พระเวททั้ง 3 นั้นอย่างแจ่มแจ้ง ตามหลักพุทธศาสนาถือว่ายังไม่สามารถที่จะทำลายสังสารวัฏได้ เพราะนั่นไม่ใช่ทางที่จะทำลายกิเลสตัณหาอันเป็นเชื้อยางที่จะทำให้สรรพสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสางสารได้
ผู้ที่จะสามารถทำลายทุกข์ในวัฏสงสารได้นั้น จะต้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน 4 จนสามารถยังอริยมรรคอริยผลให้เกิดขึ้นได้ จนสามารถทำลายโยคะทั้ง 4 ประการอันเป็นเครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพให้ได้จนหมดสิ้น ทำได้ดังนี้จึงสามารถทำลายตัณหาได้ ทำลายกองทุกข์ทั้งปวงได้ ข้ามชาติและชราอันหมายถึงการเวียนว่ายตายเกิดได้อย่างแท้จริง
โดยสรุปก็คือ การรู้จบพระเวททั้ง 3 นั้น ไม่เป็นสาระสำคัญในการทำลายสังสารวัฏ แต่การทำลายโยคะทั้ง 4 ประการให้ได้ต่างหาก จึงจะเป็นทางทำลายสังสารวัฏได้อย่างแท้จริง.