ผู้ใดละมานะ มีตนตั้งมั่นดีแล้ว มีใจดี หลุดพ้นในที่ทั้งปวง อยู่ในป่าคนเดียว เป็นผู้ไม่ประมาท ผู้นั้นพึงข้ามฝั่งแห่งแดนมฤตยู

มนาปํ ปหาย สุสมาหิตตฺโต

มนาปํ ปหาย สุสมาหิตตฺโต
สุเจตโส สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต
เอโก อรญฺเญ วิหรํ อปฺปมตฺโต
ส มจฺจุเธยฺยสฺส ตเรยฺย ปารํ.

[คำอ่าน]

มะ-นา-ปัง, ปะ-หา-ยะ, สุ-สะ-มา-หิ-ตัด-โต
สุ-เจ-ตะ-โส, สับ-พะ-ทิ, วิบ-ปะ-มุด-โต
เอ-โก, อะ-รัน-เย, วิ-หะ-รัง, อับ-ปะ-มัด-โต
สะ, มัด-จุ-ไท-ยัด-สะ, ตะ-ไร-ยะ, ปา-รัง

[คำแปล]

“ผู้ใดละมานะ มีตนตั้งมั่นดีแล้ว มีใจดี หลุดพ้นในที่ทั้งปวง อยู่ในป่าคนเดียว เป็นผู้ไม่ประมาท ผู้นั้นพึงข้ามฝั่งแห่งแดนมฤตยู.”

(พุทฺธ) สํ.ส. 15/6.

สังสารวัฏ เปรียบเสมือนวงล้อแห่งความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่หมุนเวียนไม่รู้จบ เป็นความทุกข์ที่สรรพสิ่งทั้งหลายต้องเผชิญ การหลุดพ้นจากวงจรนี้จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต สำหรับผู้ที่ปรารถนาจะบรรลุถึงความสงบสุขที่แท้จริงและเป็นอิสระจากทุกข์ทั้งปวงนั้นมีแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

ประการแรก การละทิ้งมานะถือเป็นรากฐานสำคัญในการเดินบนเส้นทางแห่งการหลุดพ้น การลดมานะลงจะช่วยให้เรามีใจที่เปิดรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การละมานะยังเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการปฏิบัติธรรมต่อไป

ประการที่สอง การดำรงตนให้คงมั่นในคุณงามความดี เป็นเสมือนการสร้างเกราะป้องกันตนเองจากกิเลสตัณหา การหมั่นกระทำความดีอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้จิตใจของเราบริสุทธิ์และผ่องใสมากยิ่งขึ้น เมื่อจิตใจบริสุทธิ์แล้ว ความชั่วก็จะเข้ามาครอบงำได้ยาก

ประการที่สาม การฝึกจิตให้ยินดีในการละชั่วทำดี เป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้เราสามารถเอาชนะกิเลสตัณหาได้อย่างเด็ดขาด การฝึกฝนตนเองให้เกิดความเบื่อหน่ายในสิ่งที่ไม่ดีและมีความยินดีในสิ่งที่เป็นประโยชน์ จะช่วยให้เราสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมได้อย่างมั่นคง

ประการที่สี่ การยินดีในการอยู่ในที่สงบสงัดปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน เป็นการสร้างโอกาสให้เราได้พิจารณาธรรมชาติของสรรพสิ่งอย่างลึกซึ้ง การฝึกสมาธิและปัญญาจะช่วยให้เราเข้าใจถึงความจริงของชีวิตและสามารถดับทุกข์ได้ที่ต้นเหตุ

ประการสุดท้าย การไม่ประมาทในการดำรงชีวิตและการสร้างความดีทุกประเภท เป็นการตอกย้ำความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีสติ การหมั่นทำความดีอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เราสะสมบุญกุศลและสร้างบารมีอันยิ่งใหญ่

เมื่อเราสามารถปฏิบัติตามหลักธรรมเหล่านี้ได้อย่างสม่ำเสมอ จิตใจของเราจะค่อยๆ บริสุทธิ์และผ่องใสมากขึ้น กิเลสทั้งปวงจะค่อยๆ สลายไป และในที่สุด เราจะสามารถบรรลุถึงพระนิพพาน ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต

ดังนั้น การหลุดพ้นจากสังสารวัฏจึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม เพียงแต่เราต้องมีความเพียรและความตั้งใจจริงในการปฏิบัติธรรมเท่านั้น.