เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้า เสียงว่ารถย่อมมีฉันใด เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่ การสมมติว่าสัตว์ ย่อมมี ฉันนั้น
ยถา หิ องฺคสมฺภารา โหติ สทฺโท รโถ อิติ
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ โหติ สตฺโตติ สมฺมติ.
[คำอ่าน]
ยะ-ถา, หิ, อัง-คะ-สำ-พา-รา…..โห-ติ, สัด-โท, ระ-โถ, อิ-ติ
เอ-วัง, ขัน-เท-สุ, สัน-เต-สุ…..โห-ติ, สัด-โต-ติ, สำ-มะ-ติ
[คำแปล]
“เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้า เสียงว่ารถย่อมมีฉันใด เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่ การสมมติว่าสัตว์ ย่อมมี ฉันนั้น.”
(วชิราภิกฺขุนี) สํ.ส. 15/198, ขุ.มหา. 29/536.
รถยนต์ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหน รุ่นอะไร ไม่ว่าจะราคาแพงหรือราคาถูก ล้วนประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น ล้อ พวงมาลัย คันเร่ง เบรค เครื่องยนต์ เป็นต้น เมื่อประกอบอะไหล่ส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกันแล้ว เราจึงเรียกว่าสิ่งนั้นคือ “รถยนต์” แต่ถ้านำชิ้นส่วนต่าง ๆ เหล่านั้นแยกออกจากกันเสียแล้ว ความเป็นรถยนต์ก็หายไป
สังขารร่างกายของคนและสัตว์ทั้งหลายก็เช่นกัน ประกอบด้วยขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ เมื่อขันธ์ทั้งห้าส่วนนี้รวมเข้าด้วยกัน จึงเรียกว่าคนหรือสัตว์ แต่เมื่อแยกขันธ์ทั้งห้าออกจากกันแล้ว ความเป็นคนหรือความเป็นสัตว์ย่อมไม่มี
เมื่อบุคคลพิจารณาได้อย่างนี้ ความยึดมั่นถือมั่นในสังขารร่างกายจะเบาบางลงได้ ทิฏฐิมานะทั้งหลายก็จะคลายลง ช่วยให้ความยึดถืออัตตาตัวตนลดลงได้
การที่เราพิจารณาะสังขารร่างกายเปรียบเทียบกับรถยนต์ในลักษณะนี้ จะช่วยให้เราเห็นความจริงว่า สังขารร่างกายของคนและสัตว์ทั้งหลาย ล้วนเป็นการประกอบขึ้นของส่วนต่าง ๆ สิ่งที่เราทั้งหลายเรียกว่า คน หรือ สัตว์ เป็นเพียงการสมมติขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีอยู่จริง การเข้าใจและยอมรับความจริงข้อนี้ จะช่วยให้เราลดความยึดมั่นถือมั่นในร่างกายและความยึดถืออัตตาตัวตนลงได้ และนำไปสู่ความปล่อยวาง เข้าใจสังขารตามความเป็นจริง ช่วยให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น