เอกํ ธมฺมํ อตีตสฺส มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน
วิติณฺณปรโลกสฺส นตฺถิ ปาปํ อการิยํ.
[คำอ่าน]
เอ-กัง, ทำ-มัง, อะ-ตี-ตัด-สะ…..มุ-สา-วา-ทิด-สะ, ชัน-ตุ-โน
วิ-ติน-นะ-ปะ-ระ-โล-กัด-สะ…..…นัด-ถิ, ปา-ปัง, อะ-กา-ริ-ยัง
[คำแปล]
“คนพูดเท็จ ล่วงสัตยธรรมเสียอย่างหนึ่ง ไม่คำนึงถึงโลกหน้า จะไม่พึงทำบาป เป็นอันไม่มี.”
(พุทฺธ) ขุ.ธ. 25/38.
การพูดเท็จ คือ การโกหกหลอกลวงไร้สัจจะ เป็นการกระทำที่ผิดศีลข้อที่ 4 ในศีล 5 ข้อ ถือเป็นบาปอย่าหนึ่งในพุทธศาสนา
บุคคลผู้มักพูดเท็จ ไร้สัจจะ มักโกหกหลอกลวงเขาไปทั่ว บุคคลประเภทนี้ย่อมสามารถกระทำบาปได้ทุกอย่าง เพราะเมื่อเป็นคนโกหกหลอกลวงไร้สัจจะเสียแล้ว จะไม่ทำบาปอย่างอื่นเป็นอันไม่มี
บุคคลผู้ไม่คำนึงถึงโลกหน้า คือ ไม่เชื่อว่าโลกหน้ามีจริง บุคคลประเภทนี้ย่อมไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ ไม่เชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้า ไม่เชื่อนรก ไม่เชื่อสวรรค์ ดังนั้น เขาจึงสามารถกระทำบาปได้ทุกอย่าง เพราะมีความเชื่ออยู่ในใจว่าเมื่อทำแล้วก็ไม่ต้องไปรับผลในโลกหน้าหรือภพชาติต่อ ๆ ไป
บุคคลทั้งสองประเภทดังกล่าวมาข้างต้นนั้น คือ คนมักพูดเท็จล่วงความสัตย์ ประเภทหนึ่ง คนที่ไม่คำนึงถึงโลกหน้า ประเภทหนึ่ง เป็นบุคคลที่ไม่ควรคบหาสมาคม เพราะเขาเป็นคนไม่กลัวบาป สามารถกระทำบาปได้ทุกอย่าง และจะนำความเดือดร้อนมาสู่ตนเองและผู้อื่นอยู่ร่ำไป.