สมณพราหมณ์บางเหล่ากล่าวธรรมของตนว่าบริบูรณ์ แต่กล่าวธรรมของผู้อื่นว่าเลว (บกพร่อง) เขาย่อมทะเลาะวิวาทกัน ฯลฯ

สกํ หิ ธมฺมํ ปริปุณฺณมาหุ อญฺญสฺส ธมฺมํ ปน หีนมาหุ เอวมฺปิ วิคฺคยฺห วิวาทยนฺติ สกํ สกํ สมฺมติมาหุ สจฺจํ

สกํ หิ ธมฺมํ ปริปุณฺณมาหุ
อญฺญสฺส ธมฺมํ ปน หีนมาหุ
เอวมฺปิ วิคฺคยฺห วิวาทยนฺติ
สกํ สกํ สมฺมติมาหุ สจฺจํ.

[คำอ่าน]

สะ-กัง, หิ, ทำ-มัง, ปะ-ริ-ปุน-นะ-มา-หุ
อัน-ยัด-สะ, ทำ-มัง, ปะ-นะ, หี-นะ-มา-หุ
เอ-วำ-ปิ, วิก-ไค-หะ, วิ-วา-ทะ-ยัน-ติ
สะ-กัง, สะ-กัง, สำ-มะ-ติ-มา-หุ, สัด-จัง

[คำแปล]

“สมณพราหมณ์บางเหล่ากล่าวธรรมของตนว่าบริบูรณ์ แต่กล่าวธรรมของผู้อื่นว่าเลว (บกพร่อง) เขาย่อมทะเลาะวิวาทกัน แม้ด้วยเหตุนี้ เพราะต่างก็กล่าวข้อสมมติของตน ๆ ว่าเป็นจริง.”

(พุทฺธ) ขุ.สุ. 25/511, ขุ.มหา. 29/383.

สมณพราหมณ์ ในที่นี้ หมายถึงบุคคลผู้ออกบวชถือข้อวัตรปฏิบัติตามลัทธิความเชื่อของตน ซึ่งลัทธิความเชื่อต่าง ๆ นั้นมีอยู่มากในโลกนี้

บุคคลทั้งหลายผู้ยึดถือลัทธิความเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่งเป็นข้อปฏิบัติสำหรับการดำรงชีวิต โดยมากมักจะยกย่องลัทธิความเชื่อของตนว่าดีเลิศประเสริฐกว่าลัทธิความเชื่อของผู้อื่น ในขณะเดียวกันก็ดูหมิ่นดูแคลนลัทธิความเชื่อของผู้อื่นไปด้วย

การยกย่องสรรเสริญลัทธิความเชื่อของตนและดูหมิ่นดูแคลนลัทธิความเชื่อของผู้อื่นนั้น ถือเป็นการยกตนข่มผู้อื่น เป็นกิริยาที่ไม่ควรกระทำ เพราะไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย มีแต่จะก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม หนักเข้าก็อาจก่อให้เกิดสงครามทางลัทธิความเชื่อขึ้นก็เป็นได้

บุคคลทั้งหลาย ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดหรือลัทธิความเชื่อใด ๆ ก็ตาม หากนับถือศาสนาหรือลัทธิความเชื่อนั้น ๆ แล้วต้องทะเลาะวิวาทหรือรบราฆ่าฟันกับผู้นับถือศาสนาอื่นที่ต่างจากตน การนับถือศาสนาหรือลัทธิความเชื่อนั้น ๆ ย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด ๆ มีแต่เป็นไปเพื่อความเสื่อมเท่านั้น.