อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา.
[คำอ่าน : อัด-โถ, อัด-ถัด-สะ, นัก-ขัด-ตัง, กิง, กะ-ริด-สัน-ติ, ตา-ระ-กา]
“ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง ดวงดาวจักทำอะไรได้”
(ขุ.ชา.เอก. 27/16)
คนเราสร้างประโยชน์เมื่อไหร่ ก็เป็นประโยชน์เมื่อนั้น ได้รับประโยชน์เมื่อนั้น เป็นฤกษ์ดีเมื่อนั้น ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ไม่ใช่ดวงดาว หรือวันดีเวลางามอะไรทั้งนั้น
คนฉลาดย่อมสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ตนเองและผู้อื่นได้ตลอดเวลา เพราะเขาไม่ถือกฤกษ์ถือยาม อยากทำประโยชน์เมื่อใดก็ทำได้ทันที ไม่ต้องรอรีให้เสียเวลา
ส่วนคนเขลา มัวแต่รอฤกษ์งามยามดีอยู่ แทนที่จะได้ทำประโยชน์ตอนนี้เดี๋ยวนี้ก็กลับไม่ได้ทำ ต้องรอให้ถึงเวลาที่คิดว่าเป็นฤกษ์ดี จึงสร้างประโยชน์ได้น้อยกว่าคนที่ไม่ถือฤกษ์ถือยาม
พระพุทธศาสนาสอนว่า ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ คือสร้างประโยชน์เมื่อไหร่ ก็เป็นฤกษ์ดีเมื่อนั้น ไม่เกี่ยวกับดวงดาวหรือฤกษ์ยามอะไรเลย
ดังนั้น เราควรเลิกถือฤกษ์ถือยาม มาถือเอาการสร้างคุณงามความดีเป็นสำคัญ เพราะฤกษ์ยามไม่ใช่สาระสำคัญ แต่การสร้างคุณงามความดีต่างหาก ที่เป็นสาระสำคัญของการดำรงชีวิต