นิโรธ แปลว่า ความดับกิเลส หมายถึง ภาวะที่ไร้กิเลสและไม่มีทุกข์เกิดขึ้นครอบงำจิต มี 5 ประการ คือ
1. วิกขัมภนนิโรธ
วิกขัมภนนิโรธ แปลว่า ความดับด้วยการข่มไว้ หมายถึง การดับกิเลสด้วยการข่มไว้หรือกดทับไว้ คือผู้ที่ปฏิบัติสมถกรรมฐานจนสามารถบรรลุฌานสมาบัติขั้นใดขั้นหนึ่ง แล้วใช้องค์แห่งฌานนั้น ๆ ข่มกิเลสเอาไว้
ตราบใดที่บุคคลผู้นั้นยังอยู่ในฌาน ก็จะสามารถข่มกิเลสเอาไว้ได้ แต่เมื่อออกจากฌานแล้ว กิเลสก็สามารถฟูขึ้นได้อีก เปรียบเหมือนการเอาก้อนหินก้อนใหญ่ทับหญ้าไว้ ในขณะที่หญ้าถูกก้อนหินทับอยู่นั้นก็ไม่สามารถเจริญงอกงามได้ แต่เมื่อใดหินก้อนนั้นถูกยกออก หญ้าที่เคยถูกกดทับไว้ก็จะสามารถกลับเจริญงอกงามขึ้นได้อีก
2. ตทังคนิโรธ
ตทังคนิโรธ แปลว่า ความดับด้วยองค์นั้น ๆ หมายถึง การดับกิเลสด้วยธรรมที่เป็นคู่ปรับหรือธรรมที่ตรงกันข้าม เช่น ดับพยาบาทได้ด้วยเมตตา ดับความริษยาได้ด้วยมุทิตา ดับสักกายทิฏฐิได้ด้วยความรู้ที่กำหนดแยกรูปนามออกจากกันได้ เป็นต้น เป็นการดับกิเลสได้ชั่วคราวในกรณีนั้นๆ
3. สมุจเฉทนิโรธ
สมุจเฉทนิโรธ แปลว่า ความดับกิเลสด้วยการตัดขาด หมายถึง ความดับกิเลสแบบเด็ดขาดด้วยโลกุตตรมรรค ในขณะแห่งมรรคนั้น ๆ โดยผู้ปฏิบัติต้องบรรลุโลกุตตรมรรคขั้นใดขั้นหนึ่ง มีโสดาปัตติมรรค เป็นต้น
เมื่อบรรลุโลกุตตรมรรคแต่ละขั้น กิเลสก็จะถูกทำลายออกไปตามกำลังของมรรคนั้น ๆ ซึ่งกิเลสส่วนที่ถูกทำลายแล้วจะไม่สามารถกลับเกิดขึ้นได้อีก เพราะถูกตัดขาดไปแล้วด้วยกำลังแห่งมรรคนั้นๆ
4. ปฏิปัสสัทธินิโรธ
ปฏิปัสสัทธินิโรธ แปลว่า ความดับความสงบระงับ หมายถึง การดับกิเลสด้วยโลกุตตรผล อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการบรรลุโลกุตตรมรรค คืออาศัยโลกุตตรมรรคดับกิเลสเด็ดขาดแล้วก็บรรลุโลกุตตรผลต่อเนื่องกันไป กิเลสก็เป็นอันสงบระงับไปหมด ไม่จำต้องขวนขวายเพื่อดับอีกในขณะแห่งผลนั้น
5. นิสสรณนิโรธ
นิสสรณนิโรธ แปลว่า ความดับด้วยการสลัดออก หมายถึง ดับกิเลสเสร็จสิ้นแล้วดำรงอยู่ในภาวะที่กิเลสดับแล้วนั้นอย่างยั่งยืนตลอดไป ได้แก่ การบรรลุพระอรหัตตผลเข้าถึงพระนิพพานนั่นเอง