หิริโอตฺตปฺปิยญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ

หิริโอตฺตปฺปิยญฺเญว โลกํ ปาเลติ สาธุกํ.

[คำอ่าน : หิ-ริ-โอด-ตับ-ปิ-ยัน-เย-วะ, โล-กัง, ปา-เล-ติ, สา-ทุ-กัง]

“หิริและโอตตัปปะ ย่อมรักษาโลกไว้เป็นอันดี”

(ว.ว.)

หิริ แปลว่า ความละอาย หมายถึง ความละอายต่อการทำบาป โดยมานึกถึงสถานะของตน นึกถึงฐานะทางสังคม บทบาทหน้าที่ของตน แล้วไม่ทำบาป เพราะละอายต่อการทำบาป

โอตตัปปะ แปลว่า ความเกรงกลัว หมายถึง ความเกรงกลัวต่อผลของบาปหรือการกระทำที่ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมายบ้านเมือง กลัวผลเสียที่จะตามมาจากการกระทำนั้น

ทั้งหิริและโอตตัปปะ สองอย่างนี้รวมเรียกว่า โลกปาลธรรม แปลว่า ธรรมที่คุ้มครองโลก คือธรรมสองข้อนี้ทำให้โลกสงบสุข ทำให้โลกร่มเย็น เพราะเมื่อคนทั้งหลายมีความละอายต่อการทำบาป และมีความเกรงกลัวต่อผลของบาปแล้ว คนทั้งหลายก็จะไม่เบียดเบียนกัน ไม่ทำผิดศีลผิดธรรม ทุกคนย่อมอยู่ได้โดยความร่มเย็น

ดังนั้น หิริ คือความละอายต่อการทำบาป และโอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อผลของบาปนี่แหละ ที่จะเป็นสิ่งที่คุ้มครองรักษาโลกให้สงบร่มเย็น เพราะเมื่อบุคคลมีความละอายต่อการทำบาป และเกรงกลัวต่อผลของบาปแล้ว คนทั้งหลายก็จะไม่ทำบาป อยู่ร่วมกันด้วยความรักสมัครสมานสามัคคี และใช้ชีวิตโดยธรรม อันเป็นเหตุแห่งความสงบสุข