
ลักษณะของขันติ 4 ประการ
ขันติ คือ ความอดทน หรือ ความอดกลั้น หมายถึง ความมีใจหนักแน่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ปัญหา หรือความยากลำบากต่าง ๆ ที่เข้ามาขัดขวางทางแห่งความสำเร็จ ลักษณะของขันติ มี 4 อย่าง คือ
1. อดทนต่อความลำบากตรากตรำ
อดทนต่อความลำบากตรากตรำ คือ ไม่ว่าจะเหนื่อยยากลำบากแค่ไหนในการทำงานหรือสร้างคุณงามความดีใด ๆ ก็ตาม เช่น ในการศึกษาเล่าเรียน ในการประกอบอาชีพ ในการสร้างบุญสร้างกุศล เป็นต้น ถึงจะมีความเหน็ดเหนื่อย เราก็อดทน ก็ไม่ย่อท้อ
ความอดทนต่อความลำบากตรากตรำ เป็นคุณสมบัติที่มนุษย์ทุกคนจำเป็นจะต้องมี เพราะการดำรงชีวิตให้อยู่รอดบนโลกใบนี้ เต็มไปด้วยความลำบาก มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่สภาพแวดล้อมที่บุคคลนั้น ๆ อยู่ การศึกษาเล่าเรียน การทำกิจการต่าง ๆ หรือแม้แต่การบำเพ็ญเพียรเพื่อความพ้นทุกข์ จะต้องพบเจอกับความลำบากตรากตรำด้วยกันทั้งนั้น ต้องมีความอดทนต่อความลำบากตรากตรำที่ประสบพบเจอ จึงจะสามารถฝ่าฟันให้ผ่านพ้นไปได้
2. อดทนต่อทุกขเวทนา
อดทนต่อทุกขเวทนา ก็คือ อดทนต่อความเจ็บปวด ความรู้สึกทางกายและทางใจทั้งหลายที่เป็นไปเพื่อความไม่สบายกายไม่สบายใจ เช่น ความเจ็บปวด บาดแผล โรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น
สัตว์โลกทั้งปวงย่อมมีเวทนาคือความรู้สึกหรือการเสวยอารมณ์ด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าเป็นสุขเวทนาอันเป็นความรู้สึกที่สุขสบายก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นทุกขเวทนาคือความรู้สึกหรือการเสวยอารมณ์อันไม่เป็นไปเพื่อความสบายแล้วไซร้ ย่อมจะก่อความหงุดหงิดรำคาญหรือสร้างความทุกข์ให้บุคคลนั้น ๆ จนทำให้ท้อแท้ถอดใจในการสร้างคุณงามความดีหรือการประกอบกิจทั้งหลายได้ ความอดทนต่อทุกขเวทนาจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นจะต้องมี เพื่อไม่ให้ท้อแท้ถอดใจ และมุมานะบากบั่นกัดฟันสู้ทนในการประกอบกิจการหรือการสร้างบารมีต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จได้
3. อดทนต่อความเจ็บใจ
อดทนต่อความเจ็บใจ คือ ความอดทนต่ออารมณ์ทางใจที่สร้างความหงุดหงิดรำคาญทำให้ร้อนรุ่มกระวนกระวาย อันเกิดจากบุคคลหรืออารมณ์ภายนอกมากระตุ้นให้เกิดขึ้น
บางทีอาจมีใครมาทำอะไรให้เราต้องเจ็บใจ ไม่พอใจ เช่น มีคนมาด่า มาพูดจาเสียดสี สาปแช่ง เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นจะทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น เราต้องพยายามข่มใจอดทนต่อความเจ็บใจหรือความไม่พอใจนั้นให้ได้ เพื่อรักษาอาการของเราให้อยู่ในสภาวะที่ปกติ ไม่เป็นไปตามอำนาจของความเจ็บใจดังกล่าว
หากอดทนต่อความเจ็บใจไม่ได้เสียแล้ว ความเจ็บใจนั้นจะเป็นสาเหตุสร้างความฉิบหายมิใช่ประโยชน์ให้แก่เราได้ไม่น้อย คือมันจะสั่งการให้เรากระทำกรรมอันเป็นทุจริตอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเป็นไปตามอำนาจของความเจ็บใจ และการกระทำนั้นเอง จะเป็นสิ่งที่สร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่ตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของแห่งการกระทำนั้น
4. อดทนต่ออำนาจกิเลส
อดทนต่ออำนาจกิเลส คือ ความอดทนต่อกิเลสทั้งหลายที่เกิดขึ้นครอบงำจิตใจในแต่ละขณะและคอยบงการให้เราทำกรรมต่าง ๆ ตามอำนาจของมัน
กิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ เมื่อเกิดขึ้นมาครอบงำจิตใจเราแล้ว ย่อมทำให้จิตใจเราเศร้าหมอง เป็นไปตามอำนาจของมัน
โลภะ เกิดขึ้นมาแล้วก็ทำให้อยากได้ แล้วแสวงหามาในทางที่ทุจริต
โทสะ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ทำให้โกรธ ทำให้มีอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อให้เกิดการฆ่ากัน ทำร้ายกัน เบียดเบียนกันขึ้น
โมหะ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ทำให้หลงผิด เห็นถูกเป็นผิด เห็นผิดเป็นถูก ขาดจิตสำนึก ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ
หากอดทนต่ออำนาจของกิเลสเหล่านี้ไม่ได้เสียแล้ว ย่อมจะถูกมันครอบงำและบงการให้กระทำกรรมอันชั่วช้าลามกนานาประการ สุดท้าย ผู้รับผลแห่งการกระทำนั้นกลับไม่ใช่กิเลสซึ่งเป็นตัวบงการ แต่เป็นตัวเราเองผู้ซึ่งเป็นเจ้าของแห่งการกระทำนั้น ๆ
ดังนั้น ต้องอดทนต่ออำนาจกิเลสให้ได้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นทาสของมัน และไม่ให้ถูกมันบงการชักจูงจิตใจให้หลงไปกระทำกรรมชั่วช้าลามกต่าง ๆ
ขันติคือความอดทนทั้ง 4 ลักษณะนี้ เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต เพราะเมื่อขาดขันติคือความอดทนเสียแล้ว การดำรงชีวิตก็เป็นไปได้ยาก การประกอบกิจการงานต่าง ๆ ก็เป็นไปได้ยาก การบำเพ็ญสมณธรรมเพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์ยิ่งเป็นไปไม่ได้เสียเลย
- วุฑฒิธรรม 4 ประการ
- จักร 4 ประการ
- อคติ 4 ประการ
- อันตรายของภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ 4 ประการ
- ปธาน 4 ประการ
- อธิษฐานธรรม 4 ประการ
- อิทธิบาท 4 ประการ
- สิ่งที่ไม่ควรประมาท 4 ประการ
- ปาริสุทธิศีล 4 ประการ
- อารักขกัมมัฏฐาน 4 ประการ
- พรหมวิหาร 4 ประการ
- สติปัฏฐาน 4 ประการ
- ธาตุกัมมัฏฐาน 4 ประการ
- อริยสัจ 4 ประการ
- อบาย 4 ประเภท
- อปัสเสนธรรม 4 ประการ
- อัปปมัญญา 4 ประการ
- อริยวงศ์ 4 ประการ
- อรูป 4 ประการ
- อวิชชา 4 ประการ
- อาหาร 4 ประการ
- อุปาทาน 4 ประการ
- โอฆะ 4 ประการ
- กิจในอริยสัจ 4
- ฌาน 4 ประการ
- ทักขิณาวิสุทธิ 4 ประการ
- ธรรมสมาทาน 4 ประการ
- บริษัท 4 (หมวดที่ 1)
- บริษัท 4 (หมวดที่ 2)
- บุคคล 4 ประเภท
- ปฏิปทา 4 ประการ
- ปฏิสัมภิทา 4 ประการ
- ภูมิ 4 ประการ
- มรรค 4 ประการ
- ผล 4 ประการ
- โยนิ 4 ประการ
- วรรณะ 4 ประการ
- วิบัติ 4 ประการ (หมวดที่ 1)
- วิบัติ 4 ประการ (หมวดที่ 2)
- เวสารัชชญาณ 4 ประการ
- เจดีย์ 4 ประการ
- ถูปารหบุคคล 4 ประเภท
- ธาตุ 4 ประการ
- ปรมัตถธรรม 4 ประการ
- ประมาณ (ปมาณิก) 4 ประเภท
- ปัจจัย 4 ประการ
- นิสสัย 4 ประการ
- ปัญญาวุฒิธรรม 4 ประการ
- พร 4 ประการ
- พละ 4 ประการ
- โภควิภาค 4
- มหาปเทส 4 ประการ
- โยคะ 4 ประการ
- เทสนาวิธี 4 ประการ
- วิธีปฏิบัติต่อทุกข์และสุข 4 ประการ
- สมบัติ 4 ประการ
- วิปลาส 4 ประการ
- เทวทูต 4 ประการ
- พหุการธรรม 4 ประการ
- สัทธา (ศรัทธา) 4 ประการ
- สมชีวิธรรม 4 ประการ
- สมาธิภาวนา 4 ประการ
- สังขาร 4 ประการ
- ราชสังคหวัตถุ 4 ประการ
- สังเวชนียสถาน 4 ประการ
- สัมปทา 4 ประการ
- โสตาปัตติยังคะ 4 ประการ (หมวดที่ 1)
- โสตาปัตติยังคะ 4 ประการ (หมวดที่ 2)
- โสตาปัตติยังคะ 4 ประการ (หมวดที่ 3)
- ธรรม 4 ประการ
- อาจารย์ 4 ประเภท
- สัมปชัญญะ 4 ประการ
- ลักษณะของขันติ 4 ประการ
- ภาวนา 4 ประการ
- มหาภูต (ภูตรูป) 4 ประการ
- อริยบุคคล 4 ประเภท
- พระอรหันต์ 4 ประเภท
- อาสวะ 4 ประการ
- นิมิต 4 ประการ
- กรรมกิเลส 4 ประการ
- อบายมุข 4 ประการ
- ทิฏฐิธัมมิกัตถะ 4 ประการ
- สัมปรายิกัตถะ 4 ประการ
- มิตรเทียม 4 ประเภท
- มิตรแท้ 4 ประเภท
- สังคหวัตถุ 4 ประการ
- สุขของคฤหัสถ์ 4 ประการ
- ความปรารถนาที่สมหมายได้ยาก 4 ประการ
- เหตุที่ตระกูลมั่งคั่งตั้งอยู่ไม่ได้นาน 4 ประการ
- กุลจิรัฏฐิติธรรม 4 ประการ
- ฆราวาสธรรม 4 ประการ