องค์ประกอบหรือคุณสมบัติที่ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นพหูสูต คือ ผู้ได้เรียนรู้มามาก มีความรู้มาก หรือ คงแก่เรียน มี 5 ประการ คือ
1. พหุสฺสุตา
พหุสฺสุตา แปลว่า ผู้ได้ฟังมามาก คือ ได้ศึกษาเล่าเรียนมามาก ได้สดับรับฟังไว้มาก ได้รับคำแนะนำจากบัณฑิตผู้รู้ทั้งหลายมามาก ได้รู้ได้เห็นมามาก มีประสบการณ์มาก สรุปว่าเป็นผู้มีความรู้มากนั่นเอง
2. ธตา
ธตา แปลว่า ทรงไว้ได้ หมายความว่า จำได้ดี คือ จับหลักหรือสาระได้ ทรงจำความไว้แม่นยำ นอกจากจะได้เรียนรู้มามากและได้ยินได้ฟังมามากแล้ว ยังต้องทรงจำไว้ได้ด้วย ไม่ใช่ว่าเรียนแล้วลืมไปเสียสิ้น เรียนรู้ของใหม่ไปเรื่อยก็ลืมของเก่าไปเรื่อย เช่นนี้ใช้ไม่ได้ เมื่อเรียนรู้แล้วต้องจำได้อย่างแม่นยำจึงจะใช้ประโยชน์ได้
3. วจสา ปริจิตา
วจสา ปริจิตา แปลว่า คล่องปาก คือ ท่องบ่นหรือใช้พูดอยู่เสมอจนแคล่วคล่องจัดเจน ได้แก่ การได้ทบทวนความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาอยู่บ่อย ๆ หรือได้ใช้ความรู้นั้นอยู่บ่อย ๆ จนช่ำชองคล่องปาก สามารถพูดได้ถ่ายทอดได้ตลอดเวลาที่ต้องการ คือเมื่อมีผู้สอบถามข้อสงสัยในเรื่องนั้น ๆ ก็สามารถหยิบยกมาพูดอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว
4. มนสานุเปกฺขิตา
มนสานุเปกฺขิตา แปลว่า เพ่งขึ้นใจ คือ ใส่ใจนึกคิดพิจารณาจนเจนใจ นึกถึงครั้งใด ก็ปรากฏเนื้อ ได้แก่ การนำความรู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา ได้ยินได้ฟังมานั้นมาขบคิดพิจารณาอยู่เสมอจนขึ้นใจ เมื่อนึกถึงครั้งใดเนื้อความของเรื่องนั้น ๆ ก็ปรากฏชัดเจน สามารถนำมาใช้ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
5. ทิฏฺฐิยา สุปฏิวิทฺธา
ทิฏฺฐิยา สุปฏิวิทฺธา แปลว่า ขบได้ด้วยทฤษฎี หรือแทงตลอดดีด้วยทิฏฐิ คือ มีความเข้าใจลึกซึ้ง มองเห็นประจักษ์แจ้งด้วยปัญญา ทั้งในแง่ความหมายและเหตุผล เข้าใจแจ่มแจ้งชัดเจนในเรื่องนั้น ๆ ทุกแง่ทุกมุม สามารถอธิบายขยายเนื้อความได้อย่างทะลุปรุโปร่งและแจ่มแจ้งชัดเจน
ผู้ประกอบด้วยคุณสมบัติทั้ง 5 ประการนี้ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นพหูสูต