
เบญจธรรม 5 ประการ
เบญจธรรม แปลว่า ธรรม 5 ประการ หมายถึง ธรรมอันดีงามห้าอย่าง หรือคุณธรรมห้าประการ เป็นหลักธรรมที่ใช้ร่วมกับเบญจศีล เป็นธรรมที่เกื้อกูลแก่การรักษาศีลห้า เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เบญจกัลยาณธรรม ประกอบด้วย
1. เมตตาและกรุณา
เมตตาและกรุณา ความรักใคร่ปรารถนาให้มีความสุขความเจริญ และความสงสารคิดช่วยให้พ้นทุกข์
- เมตตา คือ ความรัก (ความรักที่ปราศจากราคะ) ความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ความปรารถนาอยากให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญ ความคิดอยากจะทำคุณประโยชน์แก่คนรอบข้างเพื่อให้เขามีความสุขความเจริญ
- กรุณา คือ ความสงสาร ความปรารถนาอยากจะช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ เห็นคนอื่นสัตว์อื่นตกทุกข์ได้ยากแล้วอยากจะช่วยเหลือเขาให้พ้นจากภาวะเช่นนั้น ความมีใจฝักใฝ่ในอันที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ยากเดือดร้อนของผู้อื่นสัตว์อื่น
เมตตาและกรุณา เป็นหลักธรรมที่สนับสนุนศีลข้อที่ 1 คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
2. สัมมาอาชีวะ
สัมมาอาชีวะ การหาเลี้ยงชีพในทางสุจริต หมายถึง การเว้นขาดจากมิจฉาชีพ เว้นขาดจากอเนสนา คือการแสวงหาปัจจัยสี่ในทางที่ไม่ควร เลี้ยงชีพโดยสัมมาชีพ แสวงหาปัจจัยสี่ในทางที่ถูกที่ควร
สัมมาอาชีวะ เป็นหลักธรรมที่สนับสนุนศีลข้อที่ 2 คือ งดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้
3. กามสังวร
กามสังวร ความสังวรในกาม ความสำรวมระวังรู้จักยับยั้งควบคุมตนในทางกามารมณ์ ไม่ให้หลงใหลในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส ไม่เผลอไปทำชู้สู่สมผิดลูกผิดผัวผิดเมียคนอื่นเขา ยินดีเฉพาะในคู่ครองของตนเท่านั้น สามีไม่นอกใจภรรยา ภรรยาไม่นอกใจสามี
กามสังวร เป็นหลักธรรมที่สนับสนุนศีลข้อที่ 3 คือ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
4. สัจจะ
สัจจะ ความสัตย์ ความซื่อตรง ความจริงใจ การอยู่ร่วมกันในสังคม หากแต่ละคนมีความซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน ไม่หลอกลวงกัน ก็จะทำให้เกิดความไว้วางใจกันได้ แต่ละคนสามารถคบหากันได้ ทำงานร่วมกันได้ อยู่ร่วมกันได้ด้วยความสบายใจ ไม่ต้องหวาดระแวงกันและกัน
สัจจะ เป็นหลักธรรมที่สนับสนุนศีลข้อที่ 4 คือ งดเว้นจากการพูดเท็จ
5. สติสัมปชัญญะ
สติสัมปชัญญะ ระลึกได้และรู้ตัวอยู่เสมอ คือ ฝึกตนให้เป็นคนรู้จักยั้งคิด รู้สึกตัวเสมอว่า สิ่งใดควรทำ และไม่ควรทำ ระวังมิให้เป็นคนมัวเมาประมาท
- สติ คือ ความระลึกได้ หมายถึง การฉุกคิดขึ้นได้ก่อนที่จะทำ พูด หรือคิดอะไร หรือความมีใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำ พูด หรือคิด ทำให้เรารู้อยู่เสมอว่า เราจะทำอะไร จะพูดอะไร จะคิดอะไร หรือเรากำลังทำอะไร กำลังพูดอะไร กำลังคิดอะไร สติจึงเป็นตัวกำกับอย่างดีไม่ให้เราเผลอทำผิด พูดผิด หรือคิดผิด
- สัมปชัญญะ คือ ความรู้ตัวทั่วพร้อม หรือรู้ชัดแจ้งตามความเป็นจริง เข้าใจชัดเจน ในสิ่งที่สติระลึกได้ ว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี ผิดหรือถูก มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ เป็นต้น เมื่อเรารู้ชัดว่าสิ่งที่เรากำลังทำ พูด คิด เป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี เราก็จะสามารถทำสิ่งที่ถูกต้อง และยับยั้งการทำ พูด คิด ที่ผิดทำนองคลองธรรมเสียได้
สติและสัมปชัญญะ เป็นหลักธรรมที่สนับสนุนศีลข้อที่ 5 คือ งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
เมื่อบุคคลมีหลักเบญจธรรมทั้ง 5 ประการนี้เป็นข้อปฏิบัติ จะทำให้สามารถรักษาศีล 5 ได้บริสุทธิ์หมดจด
- ธรรมมีอุปการะมาก 2 ประการ
- ธรรมอันทำให้งาม 2 ประการ
- อริยบุคคล 2 ประเภท
- กาม 2 อย่าง
- เทศนา 2 ประการ (หมวดที่ 1)
- เทศนา 2 ประการ (หมวดที่ 2)
- ธรรม 2 ประการ (หมวดที่ 1)
- ธรรม 2 ประการ (หมวดที่ 2)
- ธรรม 2 ประการ (หมวดที่ 3)
- ธรรม 2 ประการ (หมวดที่ 4)
- สมาธิ 2 ประการ
- สุข 2 ประการ (หมวดที่ 1)
- สุข 2 ประการ (หมวดที่ 2)
- ทุกข์ 2 ประการ (หมวดที่ 1)
- ทุกข์ 2 ประการ (หมวดที่ 2)
- ทาน 2 ประการ (หมวดที่ 1)
- ทาน 2 ประการ (หมวดที่ 2)
- ปธาน 2 ประการ
- ภาวนา 2 ประการ
- เวปุลละ 2 ประการ
- สัจจะ 2 ประการ
- พระอรหันต์ 2 ประเภท
- อุปัญญาตธรรม 2 ประการ
- ธรรมคุ้มครองโลก 2 ประการ
- บุคคลหาได้ยาก 2 ประเภท
- กรรมฐาน 2 ประเภท
- ทิฏฐิ 2 ประการ
- นิพพาน 2 ประการ
- บูชา 2 ประการ
- ปฏิสันถาร 2 ประการ
- ปริเยสนา 2 ประการ
- ปาพจน์ 2 ประการ
- รูป 2 ประการ
- วิมุตติ 2 ประการ
- สังขาร 2 ประการ
- สุทธิ 2 ประการ
- กรรม 2 ประการ
- อันตา 2 ประการ
- ธุระ 2 ประการ
- บัญญัติ 2 ประการ
- ปัจจัยให้เกิดสัมมาทิฏฐิ 2 ประการ
- ฤทธิ์ 2 ประการ
- สังคหะ 2 ประการ
- ศาสนา 2 ประการ
- อัตถะ 2 ประการ
- เวทนา 2 ประการ