ศีล 8 ประการ

ศีล แปลว่า ปกติ หมายถึง ข้อปฏิบัติเพื่อรักษาความประพฤติทางกายและทางวาจาให้เป็นปกติและเรียบร้อยดีงาม ศีล 8 เป็นศีลที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นจากศีล 5 เป็นศีลสำหรับสมาทานรักษาในกรณีพิเศษเช่นวันอุโบสถ ที่เรียกว่า อุโบสถศีล หรือเป็นศีลสำหรับอุบาสิกาผู้ถือบวชเป็นแม่ชีสมาทานรักษา

อุโบสถศีล คือ ข้อปฏิบัติสำหรับพัฒนาตนให้ยิ่งๆ ขึ้นไปเช่นเดียวกับศีล 8 อุบาสกอุบาสิกาจะ สมาทานรักษาเป็นประจำในวันพระ คือ วันขึ้นและแรม 8 ค่ำ 15 ค่ำ (แรม 14 ค่ำในเดือนขาด) มีองค์สิกขาบท และองค์แห่งศีลเหมือนกัน ต่างกันแต่คำอาราธนา คำสมาทาน และกาลเวลาที่กำหนดเท่านั้น

อุโบสถ แปลว่า การเข้าอยู่ หรือดิถีอันวิเศษที่จะเข้าจำศีล การถืออุโบสถจะมีเวลากำหนด เช่น หนึ่งวันกับหนึ่งคืน โดยกำหนดเอาอรุณแห่งวันรุ่งขึ้นหรือเวลาใกล้อาทิตย์จะขึ้น ซึ่งมีสองระยะ คือ มีแสงขาว เรื่อๆ (แสงเงิน) และแสงแดง (แสงทอง) ในเวลาย่ำรุ่ง เป็นการหมดเขตการสมาทานหรือหมดเวลาการรักษาอุโบสถศีล ส่วนศีล 8 ไม่มีเวลากำหนด สามารถรักษาได้ตลอดเวลา

การสมาทานอุโบสถศีล จะสมาทานร่วมกันทุกข้อ เรียกว่า เอกัชฌสมาทาน ดังนั้น การรักษาอุโบสศีลจึงต้องรักษารวมกันทุกสิกขาบทหรือทุกข้อ ถ้าขาดข้อใดไปก็ถือว่าศีลขาด ขาดจากความเป็นผู้รักษาอุโบสถศีล

ศีลทั้ง 8 ประการนั้นประกอบด้วย

  1. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากการทำสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป
  2. อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ด้วยอาการแห่งขโมย
  3. อพฺรหฺมจริยา เวรมณี เว้นจากกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์
  4. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากการกล่าวเท็จ
  5. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี เว้นจากการเสพของมึนเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
  6. วิกาลโภชนา เวรมณี เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล
  7. นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนมาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี เว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการละเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเครื่องลูบไล้ ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง
  8. อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่หรูหราฟุ่มเฟือย