มลา เว ปาปกา ธมฺมา อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ

มลา เว ปาปกา ธมฺมา อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ.

[คำอ่าน : มะ-ลา, เว, ปา-ปะ-กา, ทำ-มา, อัด-สะ-หมิง, โล-เก, ปะ-รำ-หิ, จะ]

“บาปธรรม เป็นมลทินแท้ ทั้งในโลกนี้ ทั้งในโลกหน้า”

(ขุ.ธ. 25/47, องฺ.อฏฺฐก. 23/198)

บาป คือ สิ่งที่ชั่วร้าย ความไม่ดีต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจของมนุษย์ตกต่ำ ทำให้จิตใจตกไปในที่ชั่วหรืออารมณ์ที่ชั่ว ขุ่นมัว เศร้าหมอง บาปนั้นถือว่าเป็นมลทินอย่างยิ่งของชีวิต เพราะบาปจะทำให้ชีวิตของผู้ทำบาปนั้นตกต่ำอย่างเดียว หาความเจริญมิได้

ผู้ทำบาป ในโลกนี้ก็ได้รับการติเตียน ได้รับการปรับไหมใส่โทษ จองจำพันธนาการ ต้องได้รับโทษทางสังคมตามกฏหมายของบ้านเมือง เมื่อกายแตกดับล่วงลับไปแล้ว ย่อมได้รับผลของบาปนั้นในทุคติสัมปรายภพอีก เช่น ตกนรก เป็นเปรต เป็นสัตว์ดิรัจฉาน เป็นต้น แล้วแต่ว่าทำบาปกรรมชนิดใดไว้

จะเห็นได้ว่า บาปนั้นสร้างแต่ทุกข์โทษให้ทั้งในภพนี้และภพหน้า คือเมื่อยังมีชีวิตอยู่ บาปก็สร้างความเดือดร้อนให้ต่าง ๆ นานา เมื่อตายไปแล้ว บาปยังตามให้ผลในภพหน้าได้อีก

ดังนั้น เมื่อมีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาแล้ว พึงหมั่นชำระจิตใจให้ผ่องใสจากมลทินคือบาปเสีย หมั่นสร้างสมอบรมคุณงามความดีให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ เพราะคุณงามความดี จะสร้างความสุขความเจริญให้ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า