ตญฺจ กมฺมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ.
[คำอ่าน : ตัน-จะ, กำ-มัง, กะ-ตัง, สา-ทุ, ยัง, กัด-ตะ-วา, นา-นุ-ตับ-ปะ-ติ]
“ทำกรรมใดแล้วไม่เดือดร้อนใจภายหลัง กรรมที่ทำแล้วนั้นแล เป็นดี”
(สํ.ส. 15/81, ขุ.ธ. 25/23)
ธรรมดากรรมดีย่อมมีผลไปในทิศทางที่ดี คืออำนวยความสุขความเจริญให้แก่ผู้ที่ทำ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ ไม่ตามแผดเผาในภายหลัง
กรรมดีก็คือกรรมฝ่ายสุจริต ทั้ง 3 ประการ คือ กายสุจริต วจีสุจริต และ มโนสุจริต
หรือการปฏิบัติตามโอวาทปาฏิโมกข์ทั้ง 3 ข้อ คือ
- การไม่ทำบาปทั้งปวง
- การทำกุศลให้ถึงพร้อม
- การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว
เมื่อบุคคลประพฤติตนอยู่ในหลักของความดีดังที่ได้กล่าวมา ย่อมจะได้รับผลที่ดีตอบแทนเป็นความสุขความเจริญ ไม่มีความเดือดเนื้อร้อนใจใด ๆ รุกราน
เมื่อรู้ดังนี้แล้ว เราท่านทั้งหลาย พึงหมั่นสร้างคุณงามความดีเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะทุกคนต่างต้องการความสุขความเจริญแก่ตนเอง ยิ่งมากยิ่งดี และความดีนี่แหละ สุจริตทั้ง 3 ประการนี่แหละ ที่จะอำนวยผลดีอันเป็นความสุขความเจริญให้เราได้
กรรมนั้นมีความยุติธรรมเสมอ คือ ทำน้อยก็ได้น้อย ทำมากก็ได้มาก ดังนั้น เมื่อทำความดีเอาไว้มาก ย่อมจะได้รับผลดีเป็นอันมากเช่นกัน