อาการที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน 3 อย่าง

ไม่ว่าจะทำการใด ๆ ก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือต้องมีหลักการ การแสดงธรรมก็เช่นกัน ต้องมีหลักจึงจะสามารถแสดงธรรมให้ได้ผลสัมฤทธิ์ได้

พระพุทธเจ้า เมื่อจะทรงแสดงธรรมแก่ใครก็ตาม พระองค์มีหลักในการแสดงธรรมอยู่ 3 ประการ ซึ่งหลักทั้ง 3 ประการนี้เอง ทำให้พระองค์ได้รับการยอมรับนับถือจากผู้ที่ได้ฟังธรรมจากพระองค์ และผู้ที่ฟังธรรมจากพระองค์ก็ได้รับผลสัมฤทธิ์จากการฟังนั้นด้วย ดังที่พระองค์ได้เคยทรงยกหลักการแสดงธรรมของพระองค์ให้ภิกษุทั้งหลายได้ฟังว่า

อภิญฺญายาหํ ภิกฺขเว ธมฺมํ เทเสมิ โน อนภิญฺญาย, สนิทานาหํ ภิกฺขเว ธมฺมํ เทเสมิ โน อนิทานํ, สปฺปาฏิหาริยํ ภิกฺขเว ธมฺมํ เทเสมิ โน อปฺปาฏิหาริยํ.

ซึ่งแปลว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราแสดงธรรมเพื่อความรู้ยิ่ง ไม่ใช่เพื่อความไม่รู้ยิ่ง เราแสดงธรรมอันมีเหตุผล ไม่ใช่แสดงธรรมอันไม่มีเหตุผล เราแสดงธรรมอันมีปาฏิหาริย์ ไม่ใช่แสดงธรรมอันไม่มีปาฏิหาริย์”

หลักทั้ง 3 ประการนั้น มีดังนี้

1. อภิญญายธัมมเทสนา

อภิญญายธัมมเทสนา แปลว่า ทรงแสดงธรรมเพื่อความรู้ยิ่ง หมายถึง การตั้งเป้าหมายก่อนการแสดงธรรม คือพระองค์จะทรงแสดงธรรมแต่ละครั้ง พระองค์จะตั้งเป้าหมายไว้ก่อนว่า ผู้ฟังจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฟังธรรมของพระองค์ ผู้ฟังจะต้องรู้แจ้งเห็นจริงตามธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ตามกำลังแห่งสติปัญญาของผู้ฟังคนนั้น ๆ

ดังนั้น เมื่อพระองค์จะทรงแสดงธรรมแก่ใครก็ตาม พระองค์จะทรงพิจารณาดูก่อนว่า ผู้นั้นมีอุปนิสัยอย่างไร ธรรมะข้อไหนจึงจะเหมาะกับอุปนิสัยของผู้ฟังคนนั้น แล้วเลือกหัวข้อธรรมข้อนั้นมาแสดงเพื่อให้เหมาะกับอุปนิสัยของผู้ฟังคนนั้น จึงทำให้ผู้ฟังสามารถรู้แจ้งเห็นจริงตามธรรมที่พระองค์ทรงแสดงได้

2. สนิทานธัมมเทสนา

สนิทานธัมมเทสนา แปลว่า ทรงแสดงธรรมอันมีเหตุผล หมายถึง พระองค์ทรงแสดงธรรมที่มีเหตุผลรองรับ สามารถพิสูจน์ได้ สามารถพิจารณาไตร่ตรองตามให้เห็นตามความเป็นจริงได้ ไม่ใช่แสดงธรรมแบบเลื่อนลอย ไม่มีหลัก ไร้เหตุผล

ธรรมะที่พระองค์ทรงแสดงนั้นเป็นหลักธรรมที่สามารถพิสูจน์ได้ สามารถรู้แจ้งเห็นจริงได้ ไม่ได้สอนให้เชื่อแบบงมงายไร้เหตุผล

3. สัปปาฏิหาริยธัมมเทสนา

สัปปาฏิหาริยธัมมเทสนา แปลว่า ทรงแสดงธรรมอันมีปาฏิหาริย์ หมายถึง พระองค์ทรงแสดงธรรมให้เห็นจริง ได้ผลจริง เป็นอัศจรรย์ เมื่อผู้ฟังได้รับฟังและน้อมนำไปปฏิบัติตาม ย่อมสามารถเห็นผลจากการปฏิบัติได้อย่างน่าอัศจรรย์ ธรรมะที่พระองค์สอนนั้น สามารถเปลี่ยนคนชั่วให้เป็นคนดีได้ สามารถเปลี่ยนปุถุชนคนธรรมดาให้กลายเป็นพระอริยบุคคลได้ นั่นคือความอัศจรรย์แห่งธรรมที่พระองค์ทรงแสดง