
คุณของรัตนะ 3 (คุณของพระรัตนตรัย)
พระรัตนตรัย พระไตรรัตน์ หรือรัตนะ 3 อย่าง ในพระพุทธศาสนา นั่นก็คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ นับว่าเป็นสิ่งทรงคุณค่าสุงสุด เป็นสิ่งเคารพบูชาสูงสุดในพระพุทธศาสนา
รัตนะทั้ง 3 ประการนั้น มีคุณโดยย่อ ดังนี้
1. คุณของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้า กว่าจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้นั้น ต้องบำเพ็ญบารมีมาหลายอสงไขยกัป ต้องผ่านภพชาติมานับไม่ถ้วน ต้องบำเพ็ญบารมี 10 ทัสจนครบทั้ง 3 ระดับ และในชาติสุดท้ายที่ตรัสรู้เป็นประพุทธเจ้านั้น ก็ต้องบำเพ็ญบารมีอย่างหนัก กว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
เมื่อพระองค์ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จจาริกไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อนำหลักธรรมที่พระองค์ตรัสรู้นั้นไปสั่งสอนมวลชนเป็นอันมากให้รู้ตาม และถึงความพ้นทุกข์ในวัฏสงสารในที่สุด นั่นคือพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า
2. คุณของพระธรรม
หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นหลักความจริงอันประเสริฐ ที่พระพุทธเจ้าใช้เวลาบำเพ็ญบารมีมาเป็นเวลาช้านานจึงตรัสรู้ได้ และนำมาสั่งสอนมหาชนหมู่ใหญ่ให้รู้ตาม
เมื่อชาวโลกทั้งหลายได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและได้ปฏิบัติตาม ย่อมสามารถตั้งอยู่ในภาวะของความเป็นคนดี เมื่อยังมีชีวิตอยู่ย่อมได้รับความยกย่องสรรเสริญในฐานะผู้ประพฤติธรรม เป็นคนดี น่าเคารพนับถือ เพราะผู้ประพฤติธรรมย่อมไม่ทำความผิด ไม่ทำสิ่งที่ชาวโลกทั้งหลายเขาติเตียน
เมื่อสิ้นชีวิตไปจากโลกนี้ ผู้ประพฤติธรรมย่อมไม่ตกไปสู่ที่ต่ำอันเรียกว่าทุคติหรืออบายภูมิ ย่อมไปสู่สุคติ เพราะอานิสงส์แห่งธรรมที่เขาประพฤตินั่นเอง
ดังพระพุทธดำรัสที่ว่า “ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ” ที่แปลว่า ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
3. คุณของพระสงฆ์
พระสงฆ์ เป็นผู้สละความสุขสบายในทางโลก บรรพชาอุปสมบทเข้ามาในพระพุทธศาสนา เพื่อศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้รู้แจ้งเห็นจริง เมื่อศึกษาและปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ก็นำคำสอนเหล่านั้นมาถ่ายทอดให้สาธุชนทั้งหลายที่ยังไม่มีโอกาสได้บรรพชาอุปสมบทได้รับฟังและรู้ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงพระชนม์อยู่แล้ว หากไม่มีพระสงฆ์ที่คอยศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วนำมาถ่ายทอดให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้สดับรับฟัง พระพุทธศาสนาคงต้องถึงคราวอวสานเป็นแน่แท้
พระสงฆ์จึงถือว่าเป็นผู้มีคุณดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
- รัตนะ 3 (พระรัตนตรัย)
- คุณของรัตนะ 3 (คุณของพระรัตนตรัย)
- อาการที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน 3 อย่าง
- โอวาทของพระพุทธเจ้า 3 ข้อ
- ทุจริต 3 ประการ
- สุจริต 3 ประการ
- สมาธิ 3 ประการ (หมวดที่ 1)
- สมาธิ 3 ประการ (หมวดที่ 2)
- พระโสดาบัน 3 ประเภท
- อกุศลมูล 3 ประการ
- กุศลมูล 3 ประการ
- สัปปุริสบัญญัติ 3 ประการ
- อปัณณกปฏิปทา 3 ประการ
- บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการ
- สามัญญลักษณะ (ไตรลักษณ์) 3 ประการ
- อกุศลวิตก 3 ประการ
- กุศลวิตก 3 ประการ
- อัคคิ 3 ประการ
- อัคคิปาริจริยา 3 ประการ
- อัตถะ 3 ประการ (หมวดที่ 1)
- อัตถะ 3 ประการ (หมวดที่ 2)
- อธิปไตย 3 ประการ
- อนุตตริยะ 3 ประการ
- อภิสังขาร 3 ประการ
- อาสวะ 3 ประการ
- กรรม 3 ประการ
- ทวาร 3 ประการ
- ญาณ 3 ประการ (หมวดที่ 1)
- ญาณ 3 ประการ (หมวดที่ 2)
- ตัณหา 3 ประการ
- ทิฏฐิ 3 ประการ
- เทพ 3 ประเภท
- ธรรมนิยาม 3 ประการ
- นิมิต 3 ประการ
- ภาวนา 3 ประการ
- ปริญญา 3 ประการ
- ปหาน 3 ประการ
- ปาฏิหาริย์ 3 ประการ
- ปิฎก 3 ประการ (ไตรปิฎก)
- พุทธจริยา 3 ประการ
- ภพ 3 ประการ
- วัฏฏะ 3 ประการ
- วิชชา 3 ประการ
- โลก 3 ประการ (นัยที่ 1)
- โลก 3 ประการ (นัยที่ 2)
- โลก 3 ประการ (นัยที่ 3)
- วิโมกข์ 3 ประการ
- วิเวก 3 ประการ
- สังขตลักษณะ 3 ประการ
- อสังขตลักษณะ 3 ประการ
- สังขาร 3 ประการ
- สัทธรรม 3 ประการ
- สมบัติ 3 ประการ
- ทานสมบัติ 3 ประการ
- สิกขา 3 ประการ
- โกศล 3 ประการ
- ทุกขตา 3 ประการ
- เทวทูต 3 ประการ
- ธรรม 3 ประการ
- บุตร 3 ประเภท
- ปปัญจะ 3 ประการ
- ปัญญา 3 ประการ
- ปาปณิกธรรม 3 ประการ
- ลัทธินอกพระพุทธศาสนา 3 ประเภท
- วิรัติ 3 ประการ
- เวทนา 3 ประการ
- สรณะ 3 ประการ
- สันโดษ 3 ประการ