
รัตนะ 3 (พระรัตนตรัย)
คำว่า รัตนะ แปลว่า แก้ว ซึ่งหมายถึงสิ่งที่มีค่า หรือถ้าเปรียบกับบุคคลก็จะหมายถึงบุคคลผู้เป็นที่รักหรือทรงคุณค่า เช่น พ่อแก้ว แม่แก้ว ลูกแก้ว เป็นต้น
ในพุทธศาสนา ท่านใช้คำว่า รัตนะ หรือ แก้ว นี้เรียกสิ่งที่ประเสริฐสูงสุดในพุทธศาสนา เรียกว่า พระไตรรัตน์ บ้าง เรียกว่า พระรัตนตรัย บ้าง มี 3 อย่าง ได้แก่ พุทธรัตนะ รัตนะคือพระพุทธเจ้า ธัมมรัตนะ รัตนะคือพระธรรม และ สังฆรัตนะ รัตนะคือพระสงฆ์
1. พระพุทธเจ้า หรือ พุทธรัตนะ
พระพุทธเจ้า หมายถึง ผู้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ รู้แจ้งในอริยสัจ 4 ด้วยพระองค์เอง แล้วสั่งสอนผู้อื่นให้รู้ตาม
ลักษณะพิเศษของพระพุทธเจ้ามีอยู่ 2 ประการ คือ
- เป็นผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
- สามารถสอนผู้อื่นให้รู้ตามด้วย
ผู้ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้นั้น จะต้องผ่านการบำเพ็ญบารมีมายาวนานหลายอสงไขยกัป และต้องบำเพ็ญบารมีที่ยิ่งยวด 10 ประการ ใน 10 ชาติสุดท้าย เรียกว่า บารมี 10 ทัศ ครบทั้ง 3 ระดับ คือ ระดับต้น เรียกว่า บารมี ระดับกลาง เรียกว่า อุปบารมี และระดับสูง เรียกว่า ปรมัตถบารมี ก่อนที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
2. พระธรรม หรือ ธัมมรัตนะ
พระธรรม หมายถึง หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วนำมาสอนเหล่าสาวกให้รู้ตาม
ซึ่งความจริงแล้ว พระธรรมคือหลักความจริงที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ เช่น หลักอนิจจตา คือความไม่เที่ยง หลักทุกขตา คือความเป็นทุกข์ และหลักอนัตตตา คือความเป็นสิ่งไม่มีตัวตน ของสรรพสิ่ง เป็นความจริงที่มีอยู่มาแต่เดิม แต่พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบหลักความจริงเหล่านี้แล้วนำมาสอนสาวกให้รู้ตาม
3. พระสงฆ์ หรือ สังฆรัตนะ
พระสงฆ์ หมายถึง ผู้ที่ได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วปฏิบัติตามจนได้รู้ธรรมตามพระองค์ ว่าโดยตรง หมายเอาพระอริยบุคคล 8 จำพวก ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ว่าโดยอ้อม หมายเอาสมมติสงฆ์ คือ พระภิกษุสงฆ์ที่ยังไม่บรรลุธรรม แต่มุ่งปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อบรรลุความเป็นพระอริยบุคคลดังกล่าวด้วย
พระพุทธศาสนายังดำรงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะรัตนะทั้ง 3 ประการนี้ยังคงอยู่ ถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปนานแล้ว แต่พระธรรมและพระวินัยที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้ยังคงอยู่ และพระธรรมวินัยนั่นแหละที่เป็นตัวแทนของพระองค์
แต่เมื่อใดก็ตามที่รัตนะทั้ง 3 ประการ ได้หมดสิ้นไปแล้ว นั่นก็หมายความว่า พระพุทธศาสนาได้หมดไปจากโลกนี้แล้ว
ดังนั้น พุทธศาสนิกชนจึงควรบำรุงรักษารัตนะทั้ง 3 ประการนี้ให้คงอยู่ตราบกาลนาน และควรให้ความเคารพนับถือในฐานะเป็นรัตนะคือสิ่งมีค่าสูงสุดหรือหัวใจหลักของพุทธศาสนา
- รัตนะ 3 (พระรัตนตรัย)
- คุณของรัตนะ 3 (คุณของพระรัตนตรัย)
- อาการที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน 3 อย่าง
- โอวาทของพระพุทธเจ้า 3 ข้อ
- ทุจริต 3 ประการ
- สุจริต 3 ประการ
- สมาธิ 3 ประการ (หมวดที่ 1)
- สมาธิ 3 ประการ (หมวดที่ 2)
- พระโสดาบัน 3 ประเภท
- อกุศลมูล 3 ประการ
- กุศลมูล 3 ประการ
- สัปปุริสบัญญัติ 3 ประการ
- อปัณณกปฏิปทา 3 ประการ
- บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการ
- สามัญญลักษณะ (ไตรลักษณ์) 3 ประการ
- อกุศลวิตก 3 ประการ
- กุศลวิตก 3 ประการ
- อัคคิ 3 ประการ
- อัคคิปาริจริยา 3 ประการ
- อัตถะ 3 ประการ (หมวดที่ 1)
- อัตถะ 3 ประการ (หมวดที่ 2)
- อธิปไตย 3 ประการ
- อนุตตริยะ 3 ประการ
- อภิสังขาร 3 ประการ
- อาสวะ 3 ประการ
- กรรม 3 ประการ
- ทวาร 3 ประการ
- ญาณ 3 ประการ (หมวดที่ 1)
- ญาณ 3 ประการ (หมวดที่ 2)
- ตัณหา 3 ประการ
- ทิฏฐิ 3 ประการ
- เทพ 3 ประเภท
- ธรรมนิยาม 3 ประการ
- นิมิต 3 ประการ
- ภาวนา 3 ประการ
- ปริญญา 3 ประการ
- ปหาน 3 ประการ
- ปาฏิหาริย์ 3 ประการ
- ปิฎก 3 ประการ (ไตรปิฎก)
- พุทธจริยา 3 ประการ
- ภพ 3 ประการ
- วัฏฏะ 3 ประการ
- วิชชา 3 ประการ
- โลก 3 ประการ (นัยที่ 1)
- โลก 3 ประการ (นัยที่ 2)
- โลก 3 ประการ (นัยที่ 3)
- วิโมกข์ 3 ประการ
- วิเวก 3 ประการ
- สังขตลักษณะ 3 ประการ
- อสังขตลักษณะ 3 ประการ
- สังขาร 3 ประการ
- สัทธรรม 3 ประการ
- สมบัติ 3 ประการ
- ทานสมบัติ 3 ประการ
- สิกขา 3 ประการ
- โกศล 3 ประการ
- ทุกขตา 3 ประการ
- เทวทูต 3 ประการ
- ธรรม 3 ประการ
- บุตร 3 ประเภท
- ปปัญจะ 3 ประการ
- ปัญญา 3 ประการ
- ปาปณิกธรรม 3 ประการ
- ลัทธินอกพระพุทธศาสนา 3 ประเภท
- วิรัติ 3 ประการ
- เวทนา 3 ประการ
- สรณะ 3 ประการ
- สันโดษ 3 ประการ