
จักร 4 ประการ
จักร แปลว่า วงล้อ หมายถึง ธรรมอันเป็นเหมือนวงล้อที่นำชีวิตไปสู่ความเจริญงอกงาม ดุจล้อรถที่หมุนนำรถไปสู่ที่หมาย มี 4 ประการ คือ
- ปฏิรูปเทสวาสะ การอยู่ในประเทศอันเหมาะสม
- สัปปุริสูปัสสยะ การคบสัตบุรุษ
- อัตตสัมมาปณิธิ การตั้งตนไว้ชอบ
- ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้ได้ทำบุญไว้ในกาลก่อน
1. ปฏิรูปเทสวาสะ
ปฏิรูปเทสวาสะ การอยู่ในประเทศอันเหมาะสม หมายถึง การอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ดี ที่เหมาะสม เป็นสถานที่ที่มีลักษณะที่เอื้อต่อความเจริญงอกงาม 4 ลักษณะ คือ
- อาวาสสัปปายะ เป็นสถานที่มีสภาพแวดล้อมดี อยู่สบาย
- ปุคคลสัปปายะ เป็นสถานที่เป็นที่อยู่อาศัยของคนดีมีศีลธรรม คือมากไปด้วยคนดี
- อาหารสัปปายะ เป็นสถานที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์
- ธัมมสัปปายะ เป็นสถานที่มีขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีที่ดีงาม และเหมาะแก่การศึกษาธรรมะ
การอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม เช่น สภาพแวดล้อมดี ไม่มีมลพิษ ไม่มีอบายมุข ผู้คนอยู่ในศีลธรรม เป็นสัมมาทิฏฐิ ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ไม่ขาดเขิน มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดี มีแหล่งศึกษาธรรมะ มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำพร่ำสอนในเรื่องของการศึกษาและการปฏิบัติธรรม ย่อมเอื้อต่อการเป็นอยู่ที่ดี เอื้อต่อการประพฤติธรรม เอื้อต่อความเจริญงอกงามของชีวิตในทุก ๆ ด้าน
2. สัปปุริสูปัสสยะ
สัปปุริสูปัสสยะ การคบสัตบุรุษ คือ การคบหากับบัณฑิตชนคนดี ในสังคมแต่ละสังคม ย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป เราต้องรู้จักเลือกคบเฉพาะคนดีมีศีลธรรม เป็นบัณฑิตชนคนมีปัญญา สามารถแนะนำเราในทางที่ดีได้
ผู้ที่คบค้าสมาคมกับบัณฑิตชนคนดี จะได้รับอิทธิพลทั้งในด้านความประพฤติและด้านความคิด จะสามารถซึมซับเอากิริยาวาจาและความคิดอ่านที่ดีจากบัณฑิตชนเหล่านั้นได้ และสามารถขอคำแนะนำจากบัณฑิตชนเหล่านั้นได้ เป็นเหตุให้สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นบัณฑิตชนคนดีได้ในที่สุด ดังคำที่ว่า “คบคนเช่นใดย่อมเป็นคนเช่นนั้น”
3. อัตตสัมมาปณิธิ
อัตตสัมมาปณิธิ การตั้งตนไว้ชอบ คือ การตั้งตนไว้ในกรอบของศีลธรรม ตั้งใจนำตนไปให้ถูกทาง วางแผนชีวิต ตั้งเป้าหมายชีวิต และดำเนินชีวิต บนพื้นฐานของศีลธรรมอันดีของพุทธศาสนา และอยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมือง ไม่ประพฤติตนนอกลู่นอกทาง ไม่ละเมิดศีลธรรมและกฎหมาย
การตั้งตนไว้ชอบ เป็นมงคลชีวิตข้อหนึ่งในมงคล 38 ประการ เพราะการตั้งตนไว้ชอบคือดำรงตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันดีนั้น ย่อมเอื้อต่อการประกอบสุจริตทุกประการ และกรรมที่เป็นสุจริตเป็นกรรมที่ไร้โทษ มีแต่คุณประโยชน์โดยส่วนเดียว ดังนั้น ผู้ที่ตั้งตนไว้ชอบ จะไม่ได้รับโทษใด ๆ ในการดำรงชีวิต การดำรงชีวิตของเขาจะเป็นไปเพื่อสร้างคุณให้แก่ตนเองและผู้อื่น เป็นไปเพื่อประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า และประโยชน์อย่างยิ่งคือพระนิพพาน
4. ปุพเพกตปุญญตา
ปุพเพกตปุญญตา ความเป็นผู้ได้ทำบุญไว้ในกาลก่อน หรือ ความเป็นผู้ได้ทำดีไว้ก่อน คือ นอกจาก 3 ข้อข้างต้นนั้น ผู้ที่จะเจริญก้าวหน้าได้ ต้องมีบุญหรือความดีที่ได้เคยทำไว้ก่อนแล้ว อาจจะเป็นความดีในชาตินี้ เช่น ได้รับการอบรมมาดี มีการศึกษาดี เคยช่วยเหลือคนอื่นไว้มาก เป็นต้น หรืออาจจะเป็นความดีที่เคยทำไว้ในชาติก่อน ๆ ที่คอยช่วยส่งเสริม คือมีความดีหรือมีบุญเก่าเป็นทุนนั่นเอง
ความเป็นผู้ได้ทำบุญไว้ในกาลก่อนนี้สำคัญ เพราะความเจริญงอกงามความสุขสมหวังในชาตินี้ นอกจากจะอาศัยความเพียรพยายามในปัจจุบันแล้ว ยังต้องอาศัยผลของกรรมอันเป็นบุญในชาติก่อนประกอบด้วย
ถ้ามีบุญที่เคยทำไว้คอยส่งเสริมสนับสนุน การประกอบกิจต่าง ๆ ก็สำเร็จได้ง่าย แต่ถ้าขาดบุญที่เคยทำไว้ในกาลก่อนช่วยสนับสนุนเสียแล้ว กิจการงานทั้งหลายในปัจจุบันชาติ หรือการดำเนินชีวิตในด้านต่าง ๆ อาจมีอุปสรรคเข้ามาขวางเยอะแยะมากมาย จะต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะอย่างแข็งขันจึงจะฝ่าฟันจนสำเร็จได้
ในธรรม 4 ประการนี้ อัตตสัมมาปณิธิ ถือว่าเป็นหลักธรรมที่สำคัญที่สุด เพราะผู้ที่ตั้งตนไว้ดี ดำรงตนบนพื้นฐานของศีลธรรม ย่อมมีโอกาสที่จะเจริญรุ่งเรือง แต่ผู้ที่ตั้งตนไว้ผิดทาง คือทำตัวไม่ดี ย่อมหมดโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้า
ธรรมทั้ง 4 ข้อนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พหุการธรรม คือ ธรรมมีอุปการะมาก เพราะเป็นเครื่องช่วยให้สามารถสร้างความดีอื่น ๆ ได้ทุกอย่าง และช่วยให้ประสบความเจริญก้าวหน้าในชีวิต บรรลุความงอกงามไพบูลย์ได้
อย่างไรก็ตาม การนำธรรมทั้ง 4 ข้อนี้ไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต จะต้องครบถ้วนสมบูรณ์ทั้ง 4 ข้อ จึงจะสามารถเจริญก้าวหน้าได้อย่างเต็มที่ ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่ง ความเจริญก้าวหน้าก็ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
- วุฑฒิธรรม 4 ประการ
- จักร 4 ประการ
- อคติ 4 ประการ
- อันตรายของภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ 4 ประการ
- ปธาน 4 ประการ
- อธิษฐานธรรม 4 ประการ
- อิทธิบาท 4 ประการ
- สิ่งที่ไม่ควรประมาท 4 ประการ
- ปาริสุทธิศีล 4 ประการ
- อารักขกัมมัฏฐาน 4 ประการ
- พรหมวิหาร 4 ประการ
- สติปัฏฐาน 4 ประการ
- ธาตุกัมมัฏฐาน 4 ประการ
- อริยสัจ 4 ประการ
- อบาย 4 ประเภท
- อปัสเสนธรรม 4 ประการ
- อัปปมัญญา 4 ประการ
- อริยวงศ์ 4 ประการ
- อรูป 4 ประการ
- อวิชชา 4 ประการ
- อาหาร 4 ประการ
- อุปาทาน 4 ประการ
- โอฆะ 4 ประการ
- กิจในอริยสัจ 4
- ฌาน 4 ประการ
- ทักขิณาวิสุทธิ 4 ประการ
- ธรรมสมาทาน 4 ประการ
- บริษัท 4 (หมวดที่ 1)
- บริษัท 4 (หมวดที่ 2)
- บุคคล 4 ประเภท
- ปฏิปทา 4 ประการ
- ปฏิสัมภิทา 4 ประการ
- ภูมิ 4 ประการ
- มรรค 4 ประการ
- ผล 4 ประการ
- โยนิ 4 ประการ
- วรรณะ 4 ประการ
- วิบัติ 4 ประการ (หมวดที่ 1)
- วิบัติ 4 ประการ (หมวดที่ 2)
- เวสารัชชญาณ 4 ประการ
- เจดีย์ 4 ประการ
- ถูปารหบุคคล 4 ประเภท
- ธาตุ 4 ประการ
- ปรมัตถธรรม 4 ประการ
- ประมาณ (ปมาณิก) 4 ประเภท
- ปัจจัย 4 ประการ
- นิสสัย 4 ประการ
- ปัญญาวุฒิธรรม 4 ประการ
- พร 4 ประการ
- พละ 4 ประการ
- โภควิภาค 4
- มหาปเทส 4 ประการ
- โยคะ 4 ประการ
- เทสนาวิธี 4 ประการ
- วิธีปฏิบัติต่อทุกข์และสุข 4 ประการ
- สมบัติ 4 ประการ
- วิปลาส 4 ประการ
- เทวทูต 4 ประการ
- พหุการธรรม 4 ประการ
- สัทธา (ศรัทธา) 4 ประการ
- สมชีวิธรรม 4 ประการ
- สมาธิภาวนา 4 ประการ
- สังขาร 4 ประการ
- ราชสังคหวัตถุ 4 ประการ
- สังเวชนียสถาน 4 ประการ
- สัมปทา 4 ประการ
- โสตาปัตติยังคะ 4 ประการ (หมวดที่ 1)
- โสตาปัตติยังคะ 4 ประการ (หมวดที่ 2)
- โสตาปัตติยังคะ 4 ประการ (หมวดที่ 3)
- ธรรม 4 ประการ
- อาจารย์ 4 ประเภท
- สัมปชัญญะ 4 ประการ
- ลักษณะของขันติ 4 ประการ
- ภาวนา 4 ประการ
- มหาภูต (ภูตรูป) 4 ประการ
- อริยบุคคล 4 ประเภท
- พระอรหันต์ 4 ประเภท
- อาสวะ 4 ประการ
- นิมิต 4 ประการ
- กรรมกิเลส 4 ประการ
- อบายมุข 4 ประการ
- ทิฏฐิธัมมิกัตถะ 4 ประการ
- สัมปรายิกัตถะ 4 ประการ
- มิตรเทียม 4 ประเภท
- มิตรแท้ 4 ประเภท
- สังคหวัตถุ 4 ประการ
- สุขของคฤหัสถ์ 4 ประการ
- ความปรารถนาที่สมหมายได้ยาก 4 ประการ
- เหตุที่ตระกูลมั่งคั่งตั้งอยู่ไม่ได้นาน 4 ประการ
- กุลจิรัฏฐิติธรรม 4 ประการ
- ฆราวาสธรรม 4 ประการ