อริยบุคคล คือ บุคคลผู้ประเสริฐ ผู้ที่เป็นอารยะในความหมายของพระพุทธศาสนา ถ้าจำแนกตามลักษณะขั้นตอนการบรรลุธรรมเป็นมรรค-ผล คือ มรรคสมังคี (ผู้พร้อมด้วยมรรค) และ ผลสมังคี (ผู้พร้อมด้วยผล) มี 8 ประเภท คือ
- ผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค คือ ผู้บรรลุโสดาปัตติมรรคแล้ว กำลังก้าวผ่านเข้าสู่โสดาปัตติผล
- ผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล คือ ผู้สำเร็จเป็นพระโสดาบันแล้ว
- ผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิมรรค คือ ผู้บรรลุสกทาคามิมรรคแล้ว กำลังก้าวผ่านเข้าสู่สกทาคามิผล
- ผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิผล คือ ผู้สำเร็จเป็นพระสกทาคามีแล้ว
- ผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิมรรค คือ ผู้บรรลุอนาคามิมรรคแล้ว กำลังก้าวผ่านเข้าสู่อนาคามิผล
- ผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิผล คือ ผู้สำเร็จเป็นพระอนาคามีแล้ว
- ผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตมรรค คือ ผู้บรรลุอรหัตตมรรคแล้ว กำลังก้าวผ่านเข้าสู่อรหัตตผล
- ผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตผล คือ ผู้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว
ในพระอริยบุคคลทั้ง 8 ประเภทนั้น ประเภทที่ 1, 3, 5 และ 7 เป็นมรรคสมังคี (ผู้พร้อมด้วยมรรค) ประเภทที่ 2, 4, 6 และ 8 เป็นผลสมังคี (ผู้พร้อมด้วยผล)
การบรรลุอริยมรรคแล้วก้าวผ่านเข้าสู่อริยผลนั้น เป็นภาวะที่เกิดขึ้นสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว ท่านเปรียบการบรรลุอริยมรรคเหมือนกับการกดสวิตช์ไฟ การบรรลุอริยผลเหมือนการสว่างขึ้นแห่งหลอดไฟ ถึงจะเกิดขึ้นคนละขณะแต่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันและเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การดำรงอยู่ในอริยมรรคแต่ละระดับจึงเกิดขึ้นไม่นาน เพียงชั่วขณะจิดเท่านั้น