จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา

จิตฺเต สงฺกิลิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา.

[คำอ่าน : จิด-เต, สัง-กิ-ลิด-เถ, ทุก-คะ-ติ, ปา-ติ-กัง-ขา]

“เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันต้องหวัง”

(ม.มู. 12/64)

คนที่มีจิตเศร้าหมอง คือคนที่ถูกกิเลสรุมเร้า ถูกความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำอยู่ตลอดเวลา คนที่ถูกกิเลสครอบงำลักษณะนี้ จะเป็นคนที่มีจิตใจมืดบอดเศร้าหมอง มองไม่เห็นทางสว่าง

เมื่อความโลภครอบงำ ก็ทำให้จิตคิดแต่จะอยากได้โน่นนี่แล้วก็แสวงหามาในทางที่ผิดศีลธรรม เมื่อความโกรธครอบงำ ก็ทำให้จิตขุ่นเคือง ขัดใจไปหมด เมื่อความหลงครอบงำ ก็ทำให้เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด คิดอกุศล

คนที่มีจิตเศร้าหมองลักษณะนี้ อยู่ในโลกนี้ก็ไม่เจริญ เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วก็มีทุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า เช่น

ถ้าจิตถูกความโลภครอบงำในขณะที่ตายไป หรือจิตใจถูกความโลภครอบงำอยู่ตลอดเวลา เมื่อตายไปจะไปเกิดเป็นเปรต

ถ้าจิตถูกความโกรธครองงำในขณะที่ตายไป หรือจิตใจถูกความโกรธครอบงำอยู่ตลอดเวลา เมื่อตายไปจะไปเกิดในนรก

ถ้าจิตถูกความหลงครอบงำในขณะที่ตายไป หรือจิตใจถูกความหลงครอบงำอยู่ตลอดเวลา เมื่อตายไปจะไปเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน

ดังนั้น ท่านจึงกล่าวว่า เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันต้องหวัง คือหนีทุคติไม่พ้นนั่นเอง