อิจฺฉา โลกสฺมิ ทุชฺชหา “ความอยาก ละได้ยาก ในโลก”

อิจฺฉา โลกสฺมิ ทุชฺชหา "ความอยาก ละได้ยาก ในโลก"

อิจฺฉา โลกสฺมิ ทุชฺชหา.

[คำอ่าน : อิด-ฉา, โล-กัด-สะ-มิ, ทุด-ชะ-หา]

“ความอยาก ละได้ยาก ในโลก”

(สํ.ส. ๑๕/๖๑)

ตัณหามี ๓ ประการ คือ ๑.กามตัณหา ความอยากในอารมณ์ที่น่าปรารถนาน่าพอใจ ๒.ภวตัณหา ความอยากเป็นโน่นอยากเป็นนี่ ๓.วิภวตัณหา ความอยากหลุดจากสภาวะบางอย่าง

ตัณหาทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นสิ่งที่เกาะติดอยู่ในใจสรรพสัตว์ทุกตัวตนมาตั้งแต่เกิด ยากนักที่จะสลัดออกให้หมดจากจิตจากใจได้ แม้จะตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไปเกิดในภพใหม่ชาติใหม่ ตัณหาทั้ง ๓ ประการนี้ ก็ยังตามติดไปไม่มีวันหลุดออกไปได้

การที่จะสลัดตัณหาออกจากใจได้หมดสิ้นนั้น จำเป็นจะต้องใช้วิธีพิเศษ คือการเจริญวิปัสสนาภาวนา ตามแนวทางสติปัฏฐาน ๔ จึงจะสามารถสลัดตัณหาทั้งปวงให้หลุดจากจิตใจได้

ผู้ที่ต้องการสลัดตัณหาให้หมดสิ้น จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก ในการปฏิบัติขัดเกลาตน ตามแนวสติปัฏฐานทั้ง ๔ ประการ จนเกิดวิปัสสนาญาณ เข้าถึงภาวะความเป็นพระอริยะชั้นสูงสุด คือความเป็นพระอรหันต์เท่านั้น จึงจะกำจัดตัณหาให้หมดสิ้นไปได้


สารบัญ พุทธศาสนสุภาษิต


ดูอักษรย่อบอกนามคัมภีร์ได้ที่นี่