ศีลข้อที่ 3 กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี เจตนางดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม

ศีลข้อที่ 3 กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี เจตนางดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม

ศีลข้อที่ 3 กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี เจตนางดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม

ศีลข้อที่ 3 นี้ มีความมุ่งหมายเพื่อป้องกันการผิดประเวณี ป้องกันความแตกร้าวในหมู่มนุษย์ และทำให้มนุษย์ยังคงมีความเป็นมนุษย์ ไม่ประพฤติต่ำทรามเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน

หลักวินิจฉัยศีลข้อที่ 3

การกระทำที่เรียกว่า เป็นการผิดประเวณี อันทำให้ศีลข้อที่ 3 ขาดนั้น ต้องประกอบด้วยองค์ 4 ประการ คือ

  1. หญิงหรือชายนั้น เป็นบุคคลต้องห้าม
  2. มีเจตนาจะเสพกาม
  3. ประกอบกามกิจ
  4. อวัยวะเครื่องเสพกามถึงกัน

บุคคลต้องห้าม

ถ้าผู้ใดเสพกามสมสู่กับบุคคลต้องห้าม ถือว่าผู้นั้นละเมิดศีลข้อที่ 3 โดยมีหลักวินิจฉัยดังนี้

  • ชายใดสมสู่กับหญิงต้องห้าม ชายนั้นผิดศีลข้อที่ 3
  • หญิงใดสมสู่กับชายต้องห้าม หญิงนั้นผิดศีลข้อที่ 3
  • ถ้าทั้งคู่เป็นบุคคลต้องห้ามของกันและกัน เป็นใจต่อกัน สมสู่กัน ผิดศีลข้อที่ 3 ทั้งคู่

หญิงต้องห้าม มีใครบ้าง

หญิงต้องห้าม มี 3 จำพวก คือ

1. หญิงมีสามี (สสฺสามิกา) คำว่า หญิงมีสามี หมายถึง หญิงที่อยู่กินกับชายคนใดคนหนึ่งในฐานะสามีภรรยากันอย่างเปิดเผยแล้ว ไม่ว่าจะได้ทำพิธีแต่งงานหรือไม่ หรือจะได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วหรือยัง ไม่ถือเป็นประมาณ

ถ้าได้อยู่กินกับชายใดโดยเปิดเผยว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว ถือว่าเป็นหญิงมีสามี ชายใดสมสู่กับหญิงมีสามีดังกล่าว ถือว่าศีลข้อที่ 2 ขาด

หญิงมีสามี จะพ้นจากความเป็นหญิงต้องห้ามได้ก็ต่อเมื่อสามีได้ตายไปแล้วหรือหย่าขาดจากสามีแล้วเท่านั้น

2. หญิงมีญาติปกครอง (ญาติรกฺขิตา) ได้แก่ หญิงที่อยู่ในความปกครองของพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา รวมความว่า หญิงผู้อยู่ในความปกครองดูแลของญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เลี้ยงดูอุปถัมภ์

ชายใดอยากได้มาเป็นภรรยาต้องทำการสู่ขอกับผู้ปกครองของหญิงนั้นให้ถูกต้องตามประเพณี หากทำการฉุดคร่าหรือลักลอบสมสู่ ถือว่าศีลข้อที่ 3 ขาด

ส่วนหญิงที่ผู้ปกครองรับของหมั้นแล้ว ตกลงว่าจะให้แต่งงานด้วย นับตั้งแต่ผู้ปกครองรับของหมั้นไปแล้ว หญิงนั้นเป็นสิทธิ์ของคู่หมั้น

3. หญิงมีจารีตรักษา (จาริตา ธมฺมรกฺขิตา) ได้แก่ หญิงที่มีศีลธรรม กฎหมาย หรือจารีตประเพณีรักษา ห้ามการสมสู่ หญิงประเภทนี้ ได้แก่

  • หญิงผู้เป็นเทือกเถาเหล่ากอของตน
  • หญิงมีข้อห้าม

หญิงผู้เป็นเทือกเถาของตน ได้แก่ ญาติผู้ใหญ่ นับย้อนขึ้นไปทางบรรพบุรุษ 3 ชั้น คือ ย่าทวด-ยายทวด ย่า-ยาย แม่

หญิงผู้เป็นเหล่ากอของตน ได้แก่ หญิงผู้สืบสันดานจากตน นับลงไป 3 ชั้น คือ ลูก หลาน เหลน

ชายใดสมสู่กับหญิงที่เป็นเทือกเถาเหล่ากอของตน ผิดศีลข้อที่ 3

(หากหญิงสมสู่กับชายที่เป็นเทือกเถาเหล่ากอของตนก็ผิดศีลข้อนี้เช่นกัน)

หญิงมีข้อห้าม หมายถึง หญิงที่ประพฤติพรหมจรรย์ ได้แก่ ภิกษุณี สามเณรี หรืออุบาสิกาผู้รักษาศีลอุโบสถ หรือสตรีที่พระราชาทรงห้าม หรือมีข้อห้ามโดยตัวบทกฎหมาย เป็นต้น นับรวมไปถึงหญิงที่มีจารีตประเพณีห้ามไว้ด้วย

ชายต้องห้าม

ชายต้องห้าม คือ ชายที่ห้ามหญิงสมสู่ มี 2 ประเภท คือ

  1. ชายอื่นนอกจากสามีตน (สำหรับหญิงที่มีสามี)
  2. ชายที่จารีตห้าม (สำหรับหญิงทั่วไป)

ชายอื่นนอกจากสามีตน

สำหรับหญิงที่มีสามีแล้ว และยังอยู่กินร่วมกันกับสามี (ยังไม่หย่าร้าง หรือสามียังมีชีวิตอยู่) ให้ถือว่าชายอื่นทั้งหมดนอกจากสามีตนเป็นชายต้องห้ามทั้งหมด

ชายที่มีจารีตห้าม

สำหรับหญิงทั่วไป ไม่ว่าจะมีสามีแล้วหรือยังไม่มีก็ตาม ให้ถือว่าชายที่มีจารีตรักษา หรือมีจารีตห้ามไว้ เช่น นักบวช ในศาสนาที่ห้ามนักบวชเสพเมถุน เป็นชายต้องห้ามทั้งหมด ห้ามสมสู่โดยประการทั้งปวง

หรือชายที่เป็นสามีของหญิงอื่น ก็เป็นชายที่จารีตรักษาเช่นเดียวกัน ห้ามสมัครรักใคร่สมสู่กับสามีของหญิงอื่นเด็ดขาด เพราะผิดศีลข้อที่ 3