พละ หรือ พลธรรม แปลว่า ธรรมอันเป็นกำลัง หมายถึง ธรรมอันเป็นพลังทำให้บรรลุอริยมรรคอริยผล เป็นเครื่องวัดความพร้อมในการตรัสรู้ มี 5 ประการ คือ
1. สัทธา
สัทธา แปลว่า ความเชื่อ หมายถึง ความเชื่อที่มั่นคงต่อพระรัตนตรัย ที่เรียกว่า อจลสัทธา เป็นความเชื่อที่ไม่หวั่นไหว ไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย ไม่คลอนแคลน ไม่มีสิ่งใดมาทำลายลงได้ หมายเอาศรัทธาของผู้บรรลุโสดาบัน
2. วิริยะ
วิริยะ แปลว่า ความเพียร หมายถึง ความเพียรที่จะนำไปสู่การบรรลุธรรม หมายเอาสัมมัปปธานคือความเพียรชอบ 4 ประการ คือ สังวรปธาน ปหานปธาน ภาวนาปธาน และอนุรักขนาปธาน
3. สติ
สติ แปลว่า ความระลึกได้ หมายถึง การตามระลึกรู้กาย เวทนา จิต และธรรม ซึ่งได้แก่สติปัฏฐาน 4 คือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน และธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน นั่นเอง
4. สมาธิ
สมาธิ แปลว่า ความตั้งใจมั่น หมายถึง การเจริญสมาธิในขั้นฌาน 4 คือ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน
5. ปัญญา
ปัญญา แปลว่า ความรอบรู้ หมายถึง ความรอบรู้ในอริยสัจ 4 รู้ว่าทุกข์ควรกำหนดรู้ รู้ว่าสมุทัยควรละ รู้ว่านิโรธควรทำให้แจ้ง รู้ว่ามรรคควรเจริญให้มาก
หมวดธรรมนี้เรียกว่า พละ เพราะความหมายว่า เป็นพลัง ทำให้เกิดความมั่นคง ซึ่งความไร้ศรัทธาเป็นต้น แต่ละอย่างจะเข้าครอบงำไม่ได้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อินทรีย์ เพราะความหมายว่า เป็นใหญ่ในการกระทำหน้าที่แต่ละอย่าง ๆ ของตน คือเป็นเจ้าการในการครอบงำเสียซึ่งความไร้ศรัทธา ความเกียจคร้าน ความประมาท ความฟุ้งซ่าน และความหลง ตามลำดับ