ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน ชลํ อคฺคีว ภาสติ

ปณฺฑิโต สีลสมฺปนฺโน ชลํ อคฺคีว ภาสติ.

[คำอ่าน : ปัน-ทิ-โต, สี-ละ-สำ-ปัน-โน, ชะ-ลัง, อัก-คี-วะ, ภา-สะ-ติ]

“บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมรุ่งเรืองเหมือนไฟสว่าง”

(ที.ปาฏิ. 11/202)

บัณฑิต คือ ผู้ที่มีความรอบรู้ มีปัญญาเฉลียวฉลาด ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นผู้รู้จักบาปบุญคุณโทษ รู้จักประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ รู้ทางเสื่อม รู้ทางเจริญ อย่างนี้เรียกว่า บัณฑิต

ผู้ที่เป็นบัณฑิตนั้น ใช่ว่าจะมีความรู้แค่เพียงอย่างเดียวแล้วได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิต แต่ต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี มีความประพฤติดี กิริยาเรียบร้อย ประพฤติตนอยู่ภายใต้หลักศีลธรรมและกฏหมายบ้านเมือง ละชั่วทำดี เว้นทางเสื่อม ดำเนินตามทางแห่งความเจริญ ละทิ้งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์

บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล มีอยู่ในสังคมใด สังคมนั้นย่อมเปรียบเหมือนสถานที่ที่มีไฟส่องสว่าง เพราะบัณฑิตเปรียบเหมือนแสงสว่างที่ส่องทางให้คนรอบข้างนั้นสามารถมองเห็นทางและเดินตรงทางถูกทางนั่นเอง

ดังนั้น เราควรคบค้าสมาคมกับบัณฑิต ขอคำแนะนำ และดำเนินตามวิถีที่บัณฑิตแนะนำ อันจะเป็นทางแห่งความสุขความเจริญแห่งชีวิต เมื่อยกระดับตนเองขึ้นสู่ความบัณฑิตได้แล้ว พึงรักษาสภาวะเช่นนั้น และแนะนำผู้อื่นเข้าสู่วิถีแห่งบัณฑิตต่อไป สังคมจะได้สงบเย็น เป็นสังคมที่เจริญด้วยบัณฑิตชนคนดีทั้งหลาย