อาวาสิกธรรม 5 ประการ (หมวดที่ 2)

อาวาสิกธรรม คือ ธรรมของภิกษุผู้อยู่ประจำวัด แปลถือความมาใช้ให้เหมาะกับปัจจุบันว่า คุณสมบัติของเจ้าอาวาส หมวดที่ 2 ประเภทเป็นที่รักที่เคารพของสพรหมจารี คือ เพื่อนภิกษุสามเณรผู้ประพฤติพรหมจรรย์ร่วมกัน มี 5 ประการ คือ

1. มีศีล

มีศีล ตั้งอยู่ในศีล สำรวมในพระปาฏิโมกข์ ประพฤติเคร่งครัดในสิกขาบททั้งหลาย ภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาส ต้องเป็นผู้รักษาศีลอย่างเคร่งครัด มีศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์ มีความประพฤติเรียบร้อยดีงาม สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ภิกษุสามเณรภายในอาวาสได้ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย จึงจะเป็นที่เคารพรักของสพรหมจารีทั้งหลาย

2. เป็นพหูสูต

เป็นพหูสูต ได้ศึกษาเล่าเรียนมาก รู้หลักพระธรรมวินัย มีความรู้ความเข้าใจกว้างขวางลึกซึ้ง ภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาส ต้องเป็นผู้มีความรู้ในพระธรรมวินัยมาก สามารถอบรมสั่งสอนภิกษุสามเณรทั้งหลายผู้อยู่ในปกครองให้ประพฤติดีปฏิบัติชอบได้ สามารถแสดงธรรมสั่งสอนอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลายได้

3. มีกัลยาณพจน์

มีกัลยาณพจน์ มีวาจางาม กล่าวกัลยาณพจน์ รู้จักพูด รู้จักเจรจาน่าศรัทธาและนำปัญญา ภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาส ต้องเป็นผู้มีวาจาน่าเลื่อมใส เพราะต้องติดต่อสื่อสารและเทศนาสั่งสอนคนทั้งหลายอยู่เนือง ๆ ทั้งภิกษุสามเณรและอุบาสกอุบาสิกาจากทุกทิศ การมีวาจาอันงดงาม มีวาทศาสตร์วาทศิลป์ ย่อมสามารถโน้มน้าวบุคคลทั้งหลายให้สนใจใฝ่ในธรรม สามารถสร้างประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาได้เป็นอันมาก

4. เป็นฌานลาภี

เป็นฌานลาภี ได้ฌาน แคล่วคล่องในฌาน 4 ที่เป็นเครื่องอยู่สุขสบายในปัจจุบัน ภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาส พึงพยายามบำเพ็ญสมณธรรม หมั่นปฏิบัติสมถกรรมฐาน พยายามทำให้ตนเป็นผู้ได้ฌาน เพราะเจ้าอาวาสผู้ได้ฌานย่อมเป็นที่เคารพรักของสพรหมจารีทั้งหลาย สามารถแนะนำสั่งสอนภิกษุสามเณรภายใต้ปกครองให้เชื่อฟังได้อย่างสนิทใจ

5. ประจักษ์แจ้งวิมุตติ

ประจักษ์แจ้งวิมุตติ บรรลุเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ สิ้นอาสวะแล้ว ภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาส พึงปฏิบัติตนตามแนวทางแห่งอริยมรรคมีองค์ 8 ประการ หมั่นบำเพ็ญสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน พยายามทำลายกิเลสาสวะทั้งหลายให้หมดสิ้นไปจากจิตจากใจ เมื่อทำได้ดังนี้ ย่อมเป็นที่เคารพรักของสพรหมจารีทั้งหลาย