อทสฺสเนน พาลานํ นิจฺจเมว สุขี สิยา

อทสฺสเนน พาลานํ นิจฺจเมว สุขี สิยา.

[คำอ่าน : อะ-ทัด-สะ-เน-นะ, พา-ลา-นัง, นิด-จะ-เม-วะ, สุ-ขี, สิ-ยา]

“จะพึงมีความสุขเป็นนิตย์ ก็เพราะไม่พบเห็นคนพาล”

(ขุ.ธ. 25/42)

คนพาล คือคนที่ไม่มีศีลธรรม ไม่สร้างประโยชน์ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ตัดเสียแล้วซึ่งประโยชน์อย่างยิ่งคือพระนิพพาน ใช้ชีวิตแบบหายใจทิ้งไปวัน ๆ

คนพาล เป็นบุคคลที่ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วยเลย เพราะคบแล้วไม่ก่อประโยชน์ ไม่สร้างความสุข มีแต่จะสร้างความฉิบหายเดือดร้อนและความทุกข์ให้แก่ผู้ที่คบหาเท่านั้น

แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังได้ตรัสสอนเหล่าสาวกไว้ว่า “บุคคลไม่พึงปรารถนาพบคนพาล ถึงพบก็ไม่พึงเข้าไปใกล้ ถึงเข้าไปใกล้ก็ไม่พึงพูดด้วย ถึงพูดด้วยก็ไม่พึงพูดอย่างสนิทสนม”

เห็นได้ชัดเจนว่า พุทธศาสนา ปฏิเสธการคบหากับคนพาล เพราะเป็นการทำลายประโยชน์ สร้างแต่โทษอย่างเดียว

ลองคิดดูสิว่า ถ้าชีวิตเราไม่มีคนพาลมายุ่งเกี่ยวเลย คนทั้งหลายที่เราคบค้าสมาคมด้วย ไม่มีคนพาลเลยแม้แต่คนเดียว ชีวิตของเราจะประสบกับความสุขความเจริญสักแค่ไหน