อนุปุพพิกถา แปลว่า เรื่องที่กล่าวตามลำดับ หมายถึง ธรรมเทศนาที่แสดงเนื้อความลุ่มลึกลงไปโดยลำดับ เพื่อขัดเกลาอัธยาศัยของผู้ฟังให้ประณีตขึ้นไปเป็นชั้น ๆ จนพร้อมที่จะทำความเข้าใจในธรรมส่วนปรมัตถ์ มี 5 ประการ คือ
1. ทานกถา
ทานกถา กล่าวถึงการให้ หมายถึง เทศนาพรรณาถึงประโยชน์ของทานคือการให้ การเสียสละ การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เพื่อชักนำอัธยาศัยของผู้ฟังให้ยินดีในการให้ ละความเห็นแก่ตัวและความตระหนี่ถี่เหนียว บรรเทาโลภะให้เบาบางลง
2. สีลกถา
สีลกถา กล่าวถึงศีล หมายถึง เทศนาพรรณาถึงประโยชน์ของการรักษาศีล รักษากายวาจาให้เรียบร้อยดีงาม ชักนำอัธยาศัยของผู้ฟังให้เกิดความยินดีในการประพฤติสุจริต ดำเนินชีวิตตามทำนองคลองธรรม
3. สัคคกถา
สัคคกถา กล่าวถึงสวรรค์ หมายถึง เทศนาพรรณาถึงทิพยสมบัติและความสุขสบายในสวรรค์ชั้นต่าง ๆ อันบุคคลสามารถเข้าถึงได้ในสัมปรายภพ ซึ่งเป็นผลแห่งการบำเพ็ญทานและศีลดังกล่าวแล้วข้างต้นนั้น ชักนำให้ผู้ฟังยินดีในการบำเพ็ญทานและศีลเพื่อผลอันน่าปรารถนาคือการเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
4. กามาทีนวกถา
กามาทีนวกถา กล่าวถึงโทษของกาม หมายถึง เทศนาพรรณาถึงข้อเสียของกามทั้งหลาย บรรยายให้ผู้ฟังเข้าใจว่าความสุขทั้งหลายในโลกมนุษย์ก็ตามในโลกสวรรค์ก็ตาม เป็นความสุขที่ยังเจือปนด้วยทุกข์ เป็นความสุขที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน เป็นความสุขที่ยังสามารถกลับมาทุกข์ได้ เพื่อให้ผู้ฟังเบื่อหน่ายอยากพ้นจากกามเสีย
5. เนกขัมมานิสังสกถา
เนกขัมมานิสังสกถา กล่าวถึงอานิสงส์ของการออกจากกาม หมายถึง เทศนาที่กล่าวถึงผลดีของการไม่หมกมุ่นเพลิดเพลินติดอยู่ในกาม บรรยายให้ผู้ฟังรับรู้ถึงผลดีที่เกิดจากการออกจากกาม มีฉันทะที่จะแสวงความดีงามและความสุขอันสงบประณีตยิ่งขึ้นไปกว่านั้น คือพระนิพพาน
ตามปกติ พระพุทธเจ้าเมื่อจะทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่คฤหัสถ์ผู้มีอุปนิสัยสามารถที่จะบรรลุธรรมพิเศษ ทรงแสดงอนุปุพพิกถานี้ก่อน แล้วจึงตรัสแสดงอริยสัจจ์ 4 เป็นการทำจิตให้พร้อมที่จะรับ ดุจผ้าที่ซักฟอกสะอาดแล้ว ควรรับน้ำย้อมต่าง ๆ ได้ด้วยดี