จักขุ แปลว่า ตา ในที่นี้หมายถึงพระจักษุอันเป็นสมบัติของพระผู้มีพระภาคเจ้า ความรู้แจ้งเห็นจริงในสภาวธรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของพระพุทธเจ้าที่ไม่มีใครเทียบเท่า มี 5 ประการ คือ
1. มังสจักขุ
มังสจักขุ ตาเนื้อ คือ ทรงมีพระเนตรอันงาม มีอำนาจ เห็นแจ่มใส ไว และเห็นไกล เป็นพระจักษุที่มีคุณสมบัติพิเศษเหนือดวงตาของคนธรรมดาทั่วไป
2. ทิพพจักขุ
ทิพพจักขุ ตาทิพย์ คือ ทรงมีพระญาณอันเห็นหมู่สัตว์ผู้เป็นไปต่าง ๆ กัน ด้วยอำนาจกรรม ทรงเห็นการเกิดและการตายของสัตว์ทั้งหลาย ทรงเห็นว่าสัตว์แต่ละตนมีรูปร่าง ฐานะ สติปัญญา เป็นต้น แตกต่างกัน เพราะกรรมอะไร หรือผู้นั้นทำกรรมอะไรไว้จึงได้เสวยผลเช่นนี้
3. ปัญญาจักขุ
ปัญญาจักขุ ตาปัญญา คือ ทรงประกอบด้วยพระปัญญาคุณยิ่งใหญ่ เป็นเหตุให้สามารถตรัสรู้อริยสัจจธรรม เป็นเหตุให้พระองค์หลุดพ้นจากกิเลสาสวะทั้งหลาย สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
4. พุทธจักขุ
พุทธจักขุ ตาพระพุทธเจ้า คือ ทรงประกอบด้วยอินทริยปโรปริยัตตญาณ และอาสยานุสยญาณ เป็นเหตุให้ทรงทราบอัธยาศัยและอุปนิสัยแห่งเวไนยสัตว์ แล้วทรงสั่งสอนแนะนำให้บรรลุคุณวิเศษต่าง ๆ ยังพุทธกิจให้บริบูรณ์
5. สมันตจักขุ
สมันตจักขุ ตาเห็นรอบ คือ ทรงประกอบด้วยพระสัพพัญญุตญาณ อันหยั่งรู้ธรรมทุกประการ ทั้งที่เป็นสังขตธรรม และ อสังขตธรรม คือ สภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นจิต เจตสิก รูป และนิพพาน