โดยธรรมชาติ ชาวโลกทั่วไปย่อมมีความต้องการพื้นฐาน 4 ประการนี้ คือ
1. ต้องการมีทรัพย์
ชาวโลกทั้งปวงต้องการมีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก จึงพากันดิ้นรนเพื่อแสวงหาทรัพย์ ต้องทำงานทำการ ประกอบธุรกิจต่าง ๆ นานา เพื่อให้ได้ทรัพย์สินมา คนจนก็ต้องการมีฐานะร่ำรวย แม้แต่คนที่รวยอยู่แล้วก็ยังต้องการร่ำรวยยิ่งขึ้นไปอีก
2. ต้องการมียศ
นอกเหนือจากทรัพย์สินแล้ว ชาวโลกทั้งหลายย่อมต้องการมียศ ไม่ว่าจะเป็นอิสริยยศ เกียรติยศ หรือบริวารยศ เพราะยศนี้เป็นสิ่งที่ทำให้คนมีหน้ามีตาในสังคม ได้รับการยกย่องและยอมรับนับถือจากผู้อื่น ดังนั้น คนทั้งหลายจึงต้องการยศ
3. ต้องการมีอายุยืนยาว
นอกจากนั้นแล้ว ชาวโลกทั้งหลายย่อมต้องการมีอายุที่ยืนยาว อยากมีชีวิตอยู่นาน ๆ โดยเฉพาะคนที่เกิดมาในครอบครัวที่มีพร้อมทุกอย่าง มีความสุขในการดำรงชีวิต ย่อมอยากจะอยู่ในสถานะนั้น ๆ นาน ๆ อยากให้ตนเองมีอายุยืนยาว เพื่อที่จะได้เสวยสุขนาน ๆ
4. ต้องการไปเกิดในสวรรค์
นอกจากความต้องการในโลกนี้แล้ว มนุษย์ยังมีความต้องการในโลกหน้าอีก นั่นคือ เมื่อตายไปแล้ว อยากจะไปเกิดบนสวรรค์ เพื่อจะได้เสวยทิพยสุข ไม่ต้องทนทุกข์ยากลำบาก อยากจะมีความสุขสบายในสวรรค์
แต่ความปรารถนาทั้ง 4 ประการนี้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นความปรารถนาที่สำเร็จได้ยาก คือไม่ใช่จะได้มาโดยง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม ความต้องการทั้ง 4 ประการนั้น จะสามารถสำเร็จได้ ด้วยการบำเพ็ญธรรมที่ชื่อว่า สัมปรายิกัตถะ หรือ สัมปรายิกัตถสังวัตตนิกธรรม 4 ประการ คือ
- สัทธาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือมีศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา อันได้แก่ ศรัทธา 4 ประการ คือ
- กัมมสัทธา เชื่อในเรื่องของกรรม
- วิปากสัทธา เชื่อในเรื่องผลของกรรม
- กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสรรพสัตว์มีกรรมเป็นของของตน ใครทำกรรมใดไว้ จะได้รับผลของกรรมนั้น
- ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในพระปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
- สีลสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศีล คือ รักษาศีลให้บริสุทธิ์
- จาคสัมปทา ถึงพร้อมด้วยจาคะ คือ การเสียสละบริจาคแบ่งปัน ไม่ตระหนี่
- ปัญญาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยปัญญา คือ หมั่นเจริญภาวนาเป็นประจำ เพื่อให้เกิดปัญญาในทางธรรม
เมื่อบุคคลบำเพ็ญธรรม 4 ประการนี้ให้สมบูรณ์ในตนเอง ความปรารถนาที่สำเร็จได้ยากทั้ง 4 ประการนั้น จึงจะสำเร็จได้