ใจสั่งมา

ผู้มีขันติ ชื่อว่านำประโยชน์มาให้ ทั้งแก่ตน ทั้งแก่ผู้อื่น ฯลฯ

อตฺตโนปิ ปเรสญฺจ     อตฺถาวโห ว ขนฺติโก
สคฺคโมกฺขคมํ มคฺคํ     อารุฬฺโห โหติ ขนฺติโก.

[คำอ่าน]

อัด-ตะ-โน-ปิ, ปะ-เร-สัน-จะ…..อัด-ถา-วะ-โห, วะ, ขัน-ติ-โก
สัก-คะ-โมก-ขะ-คะ-มัง, มัก-คัง…..อา-รุน-โห, โห-ติ, ขัน-ติ-โก

[คำแปล]

“ผู้มีขันติ ชื่อว่านำประโยชน์มาให้ ทั้งแก่ตน ทั้งแก่ผู้อื่น ผู้มีขันติ ชื่อว่าเป็นผู้ขึ้นสู่ทางไปสวรรค์และนิพพาน.”

ส.ม. 222.

ขันติ คือ ความอดทน หรือ ความอดกลั้น หมายถึง ความมีใจหนักแน่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ปัญหา หรือความยากลำบากต่าง ๆ ที่เข้ามาขัดขวางทางแห่งความสำเร็จ ลักษณะของขันติ มี 4 อย่าง คือ

อดทนต่อความลำบากตรากตรำ คือ ไม่ว่าจะเหนื่อยยากลำบากแค่ไหนในการทำงานหรือสร้างคุณงามความดีใด ๆ ก็ตาม เช่น ในการศึกษาเล่าเรียน ในการประกอบอาชีพ ในการสร้างบุญสร้างกุศล เป็นต้น ถึงจะมีความเหน็ดเหนื่อย เราก็อดทน ก็ไม่ย่อท้อ

อดทนต่อทุกขเวทนา คือ อดทนต่อความเจ็บปวด ความรู้สึกทางกายและทางใจทั้งหลายที่เป็นไปเพื่อความไม่สบายกายไม่สบายใจ เช่น ความเจ็บปวด บาดแผล โรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น

อดทนต่อความเจ็บใจ คือ ความอดทนต่ออารมณ์ทางใจที่สร้างความหงุดหงิดรำคาญทำให้ร้อนรุ่มกระวนกระวาย อันเกิดจากบุคคลหรืออารมณ์ภายนอกมากระตุ้นให้เกิดขึ้น

อดทนต่ออำนาจกิเลส คือ ความอดทนต่อกิเลสทั้งหลายที่เกิดขึ้นครอบงำจิตใจในแต่ละขณะและคอยบงการให้เราทำกรรมต่าง ๆ ตามอำนาจของมัน

ผู้ที่ประกอบด้วยขันติทั้ง 4 ลักษณะนี้ ย่อมสามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นได้ ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น การอดทนต่ออำนาจกิเลส ช่วยให้เราควบคุมจิตใจของตนเองได้ ไม่เผลอไปกระทำกรรมชั่วตามอำนาจของกิเลสที่สั่งการให้กระทำกรรมอันเป็นบาปอกุศลต่าง ๆ นานา การงดเว้นจากการกระทำบาปเสียได้ก็จัดเป็นปาปวิรัติ เป็นบุญกุศลแก่ตนเอง อันนี้คือประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่ตนเอง นอกจากนั้น เมื่อเรามีความอดทนอดกลั้น ไม่กระทำบาปตามอำนาจของกิเลส คนรอบข้างก็ไม่ได้รับผลกระทบด้านลบ มีแต่จะได้รับผลด้านบวก คือ ได้รับความสบายใจเมื่ออยู่ใกล้ ไม่ต้องหวาดระแวง และได้ตัวอย่างที่ดีในการดำรงชีวิต เป็นต้น อันนี้คือประโยชน์ที่เกิดกับผู้อื่น

จากลักษณะของขันติทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมานั้น ความอดทนต่ออำนาจกิเลสถือว่ามีอานิสงส์มาก เพราะทำให้เราสามารถเว้นจากการทำบาปได้ จึงสามารถเป็นทางไปสู่สุคติโลกสวรรค์ได้ในเบื้องต้น นอกจากนั้น ผู้ที่มีความอดทนอดกลั้นในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน บากบั่น ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับอำนาจของกิเลส ย่อมสามารถเข้าสู่พระนิพพานได้ในที่สุด ไม่ช้าก็เร็ว.