โย จ ปุพฺเพ ปมชฺชิตฺวา ปจฺฉา โส นปฺปมชฺชติ
โสมํ โลกํ ปภาเสติ อพฺภา มุตฺโต ว จนฺทิมา.
[คำอ่าน]
โย, จะ, ปุบ-เพ, ปะ-มัด-ชิด-ตะ-วา…ปัด-ฉา, โส, นับ-ปะ-มัด-ชะ-ติ
โส-มัง, โล-กัง, ปะ-พา-เส-ติ…….…..อับ-พา, มุด-โต, วะ, จัน-ทิ-มา
[คำแปล]
“เมื่อก่อนประมาท ภายหลังไม่ประมาท เขาชื่อว่ายังโลกนี้ให้สว่าง เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น.”
(องฺคุลิมาลเถร) ม.ม. 13/486.
ปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราทั้งหลาย ย่อมมีดีบ้างชั่วบ้างปะปนกันไป คนเราทุกคนมีมุมดีและมุมเลวอยู่ในคนคนเดียวกัน มุมใดจะมากกว่ากันก็อีกเรื่องหนึ่ง
คนบางคนอาจจะเป็นคนไม่ดี เกกมะเหรกเกเรมาตั้งแต่เด็ก เพราะสภาพแวดล้อมที่เขาโตมาหล่อหลอมให้เขาเป็นอย่างนั้น แต่เมื่อเขามีโอกาสได้พบกัลยาณมิตร หรือได้พบครูบาอาจารย์ที่ดีคอยแนะนำพร่ำสอนในสิ่งที่ดีและถูกต้อง เขาย่อมสามารถปรับความประพฤติของตนให้ดีขึ้นได้
บุคคลที่เคยชั่วมาก่อน และสามารถกลับตัวกลับใจเสียใหม่ ทำตนให้เป็นคนดีของสังคมได้ดังกล่าว ย่อมสามารถเป็นคนดีของสังคมได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมน่าอยู่ได้ เปรียบเหมือนดวงจันทร์ที่ถูกเมฆหมอกบดบังทำให้โลกมืดในบางช่วงเวลา แต่เมื่อเมฆหมอกเลื่อนลอยออกไป ดวงจันทร์นั้นย่อมสามารถส่องแสงทำให้โลกสว่างในยามค่ำคืนได้
ดังนั้น ถึงแม้จะเคยผิดพลาดมาบ้างในอดีต เมื่อคิดได้ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคม.