ใจสั่งมา

ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่า มีประมาณน้อย จักไม่มาถึง ฯลฯ

มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส     น มตฺตํ อาคมิสฺสติ
อุทพินฺทุนิปาเตน     อุทกุมฺโภปิ ปูรติ
อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส     โถกํ โถกํปิ อาจินํ.

[คำอ่าน]

มา-วะ-มัน-เย-ถะ, ปุน-ยัด-สะ….นะ, มัด-ตัง, อา-คะ-มิด-สะ-ติ
อุ-ทะ-พิน-ทุ-นิ-ปา-เต-นะ…………….อุ-ทะ-กุม-โพ-ปิ, ปู-ระ-ติ
อา-ปู-ระ-ติ, ที-โร, ปุน-ยัด-สะ……โถ-กัง, โถ-กัง-ปิ, อา-จิ-นัง

[คำแปล]

“ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่า มีประมาณน้อย จักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำ ย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตก ฉันใด ผู้มีปัญญา สั่งสมบุญแม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ ฉันนั้น.”

(พุทฺธ) ขุ.ธ. 25/31.

บุญ เป็นชื่อของความสุข เพราะบุญเป็นเหตุอำนวยประโยชน์สุขให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย บุญ เป็นสภาวะที่ชำระจิตใจของสรรพสัตว์ให้สะอาดหมดจดจากความเศร้าหมอง บุญ เป็นสภาวะที่ทำบารมีของสรรพสัตว์ให้เต็มเปี่ยม

บุคคลทั้งหลายในโลกนี้ มีบุญเก่าที่สร้างมาไม่เท่ากัน มากบ้างน้อยบ้างปะปนกันไป และแม้แต่กำลังความสามารถในการสร้างบุญใหม่ก็ไม่เท่ากัน บางคนมีสักยภาพมาก ก็สามารถสร้างบุญสร้างกุศลได้มาก บางคนมีสักยภาพน้อย ก็ทำบุญทำกุศลได้ทีละน้อย

อย่างไรก็ตาม บุคคลก็ไม่พึงดูหมิ่นว่าบุญที่ทำทีละน้อยนั้นจะไม่สามารถอำนวยศุภผลให้ได้ เพราะแม้แต่หม้อที่เปิดฝาตั้งไว้กลางแจ้ง เมื่อฝนตกลงมาทีละน้อย ๆ หม้อนั้นย่อมเต็มด้วยน้ำฝนได้ หรือแม้แต่ห้วยหนองคลองบึงที่มีน้ำเต็มเปี่ยม น้ำเหล่านั้นก็มาจากฝนที่ตกลงมาทีละน้อย ค่อย ๆ สะสมจนเต็มห้วยหนองคลองบึงนั้นนั่นเอง

บุญก็เช่นกัน ถึงแม้บางคนจะไม่มีความสามารถที่จะทำบุญทีละมาก ๆ แต่ก็ไม่พึงท้อแท้ใจ พึงตั้งใจทำบุญเท่าที่สามารถทำได้ต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อทำบ่อย ๆ บุญที่ทำทีละน้อยนั้น ย่อมจะสะสมขึ้นกลายเป็นบุญใหญ่ที่อำนวยประโยชน์สุขมหาศาลให้ได้เช่นกัน.